ฝรั่งเศสโกลาหล ประท้วงรุนแรงรอบกรุงปารีส หลายชาติเตือนนทท.ระวังตัว 

เหตุการณ์ประท้วงในฝรั่งเศส ปะทุขึ้นจนบานปลายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเด็กชายวัยรุ่น อายุ 17 ปีเชื้อสายแอลจีเรียเสียชีวิต ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความไม่พอใจและส่งผลให้เกิด การชุมนุมประท้วง ตามเมืองใหญ่และหลายเมืองของฝรั่งเศส กระทั่งบานปลายกลายเป็นความรุนแรงหลายวันติดต่อกัน

โดยเริ่มมีการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. ณ ย่านชานเมือง Nanterre ของกรุงปารีส ซึ่งเป็นจุดที่ชายวัยรุ่นอายุ 17 ปีที่ต่อมาทราบชื่อว่า นาย Nahel Merzouk ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ก่อนที่การประท้วงจะถูกจุดติดในอีกหลายเมือง

การเสียชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าว ได้กลายเป็นชนวนแห่งความโกรธแค้นต่อประเด็นความไม่เท่าเทียมกันทางเชื้อชาติในฝรั่งเศสและการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการชุมนุมทั่วไปกลายเป็นความโกลาหลอลหม่าน โดยในคืนวันที่ 29 มิ.ย.มีผู้ประท้วงถูกจับกุมมากกว่า 800 คน หลังจากที่พวกเขาได้ก่อเหตุจุดไฟเผาอาคาร ยานพาหนะ

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ได้จัดการเจรจาเนื่องจากความกังวลว่าวิกฤตนี้อาจนำพาประเทศกลับไปสู่ความรุนแรงเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเกิดขึ้นในปี 2005

นักท่องเที่ยวคว้าง นานาชาติเตือนระวังความปลอดภัย
นักท่องเที่ยวหลายล้านคนที่วางแผนเที่ยวฝรั่งเศสในช่วงฤดูร้อนนี้ อาจเกิดความลังเลว่าควรเดินทางต่อดีหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ ฝรั่งเศสได้ประกาศเคอร์ฟิวแล้วในบางเมือง นอกจากนี้ บริการรถสาธารณะต้องลดเวลาให้บริการชั่วคราวทั้งประเทศ โดยจะหยุดให้บริการในเวลา 21:00น.เพื่อป้องกันความเสียหายและพยายามยับยั้งความรุนแรง

สำหรับ เมืองที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วง เริ่มจากเมือง Nanterre ชานเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปารีสเมืองหลวง และเมืองอื่น ๆ รอบกรุงปารีส ได้แก่ เมือง Bezons, Gennevilliers, Garges-lès-Gonesse, Asnières-sur-Seine, Montreuil, Neuilly-sur-Marne, Clamart และ Meudon

นอกจากนี้ เมือง Trappes, Clergy, Guyancourt และ Vigneux-sur-Seine ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เหตุประท้วงเกิดขึ้นบริเวณรอบนอกของถนนวงแหวนของปารีส (boulevard Périphérique de paris) ขณะนี้ ทางการได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปประจำการเฝ้าระวังในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆด้วย เช่น เมือง Marseille และ Bordeaux รวมถึงเมืองอื่นๆทางตอนเหนือ เช่น Lille และ Roubaix

ส่วนพื้นที่ภายใต้คำสั่งเคอร์ฟิวในเวลานี้ ได้แก่ 2 เมือง คือ Clamart และ Neuilly-sur-Marne ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงปารีสที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุด

โดยใน Clamart ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 21.00 น. - 06.00 น. และจะดำเนินการต่อจนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม ขณะที่ใน Neuilly-sur-Marne เคอร์ฟิวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 23:00 - 06:00 น.

สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ระบบคมนาคมในฝรั่งเศสได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) ทางการประกาศตัดบริการรถบัสและรถรางทั้งหมดทั่วประเทศภายในเวลา 21.00 น. หลังจากผู้ประท้วงมุ่งเป้าทำลายระบบขนส่งสาธารณะ 

ส่วนสถานีรถไฟ Nanterre-Prefecture อยู่ในช่วงถูกสั่งปิด ขณะที่เมือง Lille รถบัสและรถรางปิดให้บริการหลัง 20.00 น.ส่วนทางตอนใต้ของเมือง Marseille บริการขนส่งสาธารณะมีกำหนดหยุดให้บริการตั้งแต่ 19.00 น.

ในเมือง Clamart ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก รถรางและรถบัสโดยสารหลายคันถูกจุดไฟเผาประท้วง อย่างไรก็ตาม แม้บริการรถโดยสารสาธารณะบางส่วนในกรุงปารีสต้องหยุดชะงัก แต่รถไฟใต้ดินยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ และรถไฟความเร็วสูงยูโรสตาร์ (Eurostar) รวมทั้งรถไฟระหว่างเมืองของฝรั่งเศส ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบ 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่า ระบบคมนาคมจะถูกสั่งปิดเพิ่มเติมอีกหรือไม่หากการประท้วงยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายวัน ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังฝรั่งเศส ควรตรวจสอบเว็บไซต์เพื่อรับการอัปเดตก่อนเดินทาง

สื่อต่างประเทศระบุ ส่วนใหญ่ผู้คนยังใช้ชีวิตกันโดยปกติ พื้นที่ใจกลางกรุงปารีสซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Louvre และหอไอเฟลแทบไม่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับพื้นที่ชนบทและบริเวณชายฝั่งที่ยังมีนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย แต่เนื่องจากยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการประท้วงจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน และทางการจะประกาศมาตรการใดเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาหรือไม่ จึงมีคำแนะนำการเดินทางจากหลายประเทศ รวมทั้งอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ที่เตือนพลเมืองของตนเองที่พำนักหรือท่องเที่ยวอยู่ในฝรั่งเศส ให้ติดตามข่าวสารการประท้วงและความคืบหน้าต่างๆของสถานการณ์ และให้ติดต่อกับบริษัททัวร์

นอกจากนี้ ไม่มีประเทศไหนเลยที่แนะนำให้พลเมืองเดินทางเยือนฝรั่งเศสในช่วงเวลานี้