จับสัญญาณ“ธนาคารล่ม” เราควรถอนเงินหรือไม่?

20 มี.ค. 2566 | 06:49 น.

“เงินของฉันปลอดภัยหรือไม่?” คำถามในใจของลูกค้าธนาคารจำนวนมากหลังเดือนนี้มีข่าวว่า 2 ธนาคารท้องถิ่นสหรัฐ ทั้ง SVB และ Signature Bank ล่มสลาย ตามมาด้วย Credit Suisse ธนาคารดังในสวิตซ์เซอร์แลนด์ ที่โดนคู่แข่งเทคโอเวอร์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากผลประกอบการขาดทุน

เหตุการณ์ล่มสลาย ของ 2 ธนาคารของสหรัฐฯ สร้างความไม่มั่นใจต่อบรรดาลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารใหญ่ๆทั่วโลก จนทำให้ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) เข้าควบคุม

เดิมที FDIC รับประกันผู้ฝากเงินสูงถึง 250,000 ดอลลาร์ แต่หลังเกิดเหตุการณ์ล่าสุด ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ  ไบเดน ได้ดำเนินขั้นตอนพิเศษ ประกาศรับประกันว่าลูกค้า SVB และ Signature จะสามารถเข้าถึงเงินทั้งหมดของพวกเขาไม่ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมไปถึงผู้มีเงินฝากที่ไม่มีหลักประกัน  ดังนั้น ลูกค้าเงินฝากธนาคารในสหรัฐจึงไม่มีอะไรให้กังวล

ทั้งนี้มีข้อมูลว่า สิ้นปี 2565 เงินฝากที่ไม่มีประกัน แบ่งเป็นเป็นลูกค้าในสหรัฐอย่างน้อย 151.5 พันล้านดอลลาร์ และลูกค้าต่างประเทศ อีกอย่างน้อย 13.9 พันล้านดอลลาร์

 

ธนาคารในยุโรปก็มีการคุ้มครองเงินฝากลูกค้าเช่นกัน

สหราชอาณาจักร 

มีโครงการรับประกันเงินฝาก Financial Services Compensation (FSCS) ผู้ฝากเงินสามารถรับเงินคืนได้มากถึง 85,000 ปอนด์ (102,484 ดอลลาร์) หากธนาคารของพวกเขามีผลประกอบการต่ำกว่าปกติ และจะเพิ่มเป็น 2 เท่าเป็น 170,000 ปอนด์ (204,967 ดอลลาร์) สำหรับบัญชีร่วม ซึ่ง FSCS ได้รับเงินทุนจากสถาบันการเงินจากธนาคารต่างๆ และต้องจ่ายภาษีทุกปี

สหภาพยุโรป 

ลูกค้าของธนาคารที่ล่ม จะได้รับเงินคืนจำนวน 100,000 ยูโร (105,431 ดอลลาร์) ภายใต้โครงการรับประกันเงินฝาก ซึ่งแหล่งเงินนั้นมาจากธนาคารทั้งหมด ส่วนผู้ถือบัญชีร่วมสามารถรับเงินชดเชยรวม 200,000 ยูโร (210,956 ดอลลาร์)

สวิตเซอร์แลนด์ 

เงินฝากได้รับการประกัน ภายใต้การกำกับดูแลของ FINMA (The Swiss Financial Market Supervisory Authority)  คุ้มครองวงเงินสูงถึง 100,000 ฟรังก์สวิส

 

เราควรถอนเงินออกจากธนาคารหรือไม่?

"เจย์ แฮทฟีลด์" ซีอีโอของ Infrastructure Capital Advisors มีความเห็นว่า

 “ไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะเรานำเงินทั้งหมดออกจากธนาคาร แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าธนาคารที่เราฝากเงินไว้นั้นเข้าโครงการประกันเงินฝากกับหน่วยงานรัฐ หรือ  มีหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ และเราควรมีเงินฝากที่มีประกัน มากกว่าเงินฝากที่ไม่มีประกัน” 

สอดคล้องกับ "แมทธิว โกลเบิร์ก" นักวิเคราะห์ของ Bankrate มองว่า 

“ปรากฎการณ์ล่มสลายของธนาคาร เป็นสัญญาณเตือนให้เราได้ทบทวนและตระหนักว่า เงินฝากของเรามีการรับประกันเงินฝากอยู่หรือไม่ คุ้มครองวงเงินเท่าใด หากธนาคารมีผลขาดทุนอย่างหนักจนต้องปิดตัว”

คำแนะนำของแฮทฟีลด์ ว่า “ควรกระจายความเสี่ยง” นั่นคือ การแบ่งเงินไปฝากหลายๆธนาคาร ถ้าคุณมีเงินหนึ่งล้าน ทำไมไม่มี 4 บัญชีแล้วทำประกันเงินฝาก

คุณอาจได้รับการประกันเงินฝาก มากกว่า 250,000 ดอลลาร์ หากคุณมีบัญชีเงินฝากมากกว่าหนึ่งบัญชีหรือมีบัญชีร่วม

 

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าธนาคารที่เราฝากเงินอยู่ประสบปัญหา

หากเราอยู่ในฐานะลูกค้ารายบุคคล ต้องบอกว่า "แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย" ที่จะรู้ล่วงหน้าถึงสัญญาณอันตราย 

"มาร์บิว บราวน์" อดีตผู้บริหารลูกค้าของ JP Morgan Chase  แนะว่า

“ลูกค้าจะต้องติดตามงบการเงินของธนาคาร เอกสารที่ยื่นตามข้อบังคับ คำชี้แจงและเอกสารอื่นๆของธนาคารอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อให้จับสัญญาณว่าธนาคารกำลังประสบปัญหาหรือไม่” 

นอกจากนี้ เราสามารถดูได้จากข้อมูลที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ เช่น การไหลเข้าและออกของเงินฝาก การสูญเสียเครดิต และแหล่งเงินทุนของธนาคารนั้น ตามขอบเขตที่มีการรายงาน ณ สิ้นไตรมาส ดังนั้นหากธนาคารประสบกับปัญหา ลูกค้าที่มีบัญชีของธนาคารมักจะเห็นว่าปัญหาก่อน

 

วิกฤติการเงินเมื่อปี 2551 จะกลับมาอีกครั้งหรือไม่?

หลังจากเกิดวิกฤติครั้งใหญ่ในปี 2551 ที่รัฐบาลสหรัฐต้องเข้าไปอุ้มธนาคารขนาดใหญ่ ป้องกันผลกระทบใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นตามมา แต่สุดท้ายกลับทำให้เศรษฐกิจทั้งระบบล่มไปด้วย

ทำให้รัฐบาลสหรัฐ ตั้งเกณฑ์ว่ารัฐจะต้องเข้าไปตรวจตราธนาคารต่างๆอย่างเข้มงวดตลอดเวลา หากธนาคารมีทรัพย์สินเกิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเกณฑ์นี้ถูกเปลี่ยนในปี 2561 ซึ่งเพิ่มทรัพย์สินจาก 5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 2.5 แสนล้านดอลลาร์

จนกระทั่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การล่มสลายของ  2 ธนาคารสหรัฐ ทำให้มีการออกมาตรการป้องกันต่างๆเพิ่มเติม เช่น "ธนาคารกลางสหรัฐ" ประกาศว่าจะให้เงินกู้ธนาคารนานถึง 1 ปีเพื่อแลกกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ค้ำประกันที่สูญเสียมูลค่า เฟดจะยังคงมูลค่าหนี้เดิมของสำหรับธนาคารที่ขอรับเงินกู้

ส่วน "กระทรวงการคลังสหรัฐ" ก็จะให้การคุ้มครองสินเชื่อมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันความเสียหายของธนาคาร ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารเข้าถึงเงินสดได้อย่างง่ายดายเมื่อจำเป็น 

ในทางทฤษฎี "ภาคการธนาคารควรมีเสถียรภาพมากขึ้น" หลังเกิดการปฏิรูปกฏระเบียบ ในอนาคตหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่อระบบธนาคารสหรัฐ เชื่อว่าจะอุดรอยรั่วต่างๆได้

ที่มา : CNN