ซาอุฯโต้ข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัล ยันไม่มีการหารือโอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมัน

22 พ.ย. 2565 | 01:49 น.

รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย ออกมาปฏิเสธข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกของกลุ่มโอเปก ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

 

สำนักข่าว SPA ของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวของ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่เผยแพร่วานนี้ (21 พ.ย.)  โดยยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบีย และสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ เจ้าชายบิน ซัลมาน กล่าวยืนยันว่า

  •  โอเปกพลัสจะไม่มีการหารือการตัดสินใจใดๆก่อนการประชุม
  • การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วันในขณะนี้ จะยังคงดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2566
  • หากมีความจำเป็นในการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปเพื่อสร้างสมดุลต่ออุปสงค์และอุปทาน โอเปกก็พร้อมที่จะเข้าแทรกแซงได้ตลอดเวลา

 เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากรัฐมนตรีของกลุ่มโอเปก ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 

 

รายงานระบุว่า โอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วันในการประชุมนโยบายการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 ธ.ค.ที่กำลังจะมาถึง

 

นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยังรายงานว่า โอเปกหารือเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้แจ้งต่อผู้พิพากษาศาลสหรัฐว่า เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ควรได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในสหรัฐกรณีมีส่วนพัวพันกับการสังหารนายจามาล คาชอกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย

 

รายงานระบุว่า ท่าทีที่ผ่อนคลายลงของปธน.ไบเดนได้สร้างความพอพระทัยต่อเจ้าชายบิน ซัลมาน และจะเป็นการย้ำสถานะของพระองค์ในการเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย หลังจากที่คดีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบียมายาวนานข้ามปี

 

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐ หลังประกาศปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของโอเปกพลัสนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา และเป็นการปรับลดกำลังการผลิตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แม้ว่าปธน.ไบเดน จะแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า สหรัฐต้องการให้โอเปกเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลสหรัฐ