สีสันเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ หรือ "รีพับลิกัน"จะแลนด์สไลด์?

08 พ.ย. 2565 | 07:22 น.

เมื่อโพลหลายสำนักชี้ออกมาว่า การเลือกตั้งกลางเทอมวันนี้ อาจทำให้ "รีพับลิกัน" ที่มีอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำ จะสามารถคว้าเสียงข้างมากในสภาอีกครั้ง "ทรัมป์" ก็ประกาศทันทีว่ามีข่าวดีจะบอก เชื่อว่าหากพรรคชนะแลนด์สไลด์ เขาจะลงเลือกตั้งปธน.ปี 67 อย่างแน่นอน

"โดนัลด์ ทรัมป์" ส่งสัญญาณประกาศลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2567 ท่ามกลางกระแสเสียงจากโพลสำรวจที่ชี้ว่า "รีพับลิกัน" อาจคว้าชัยชนะถล่มทลายจาก ศึกเลือกตั้งกลางเทอม ในวันนี้ (8 พ.ย.) ก็เป็นได้ แต่หากเป็นเช่นนั้น การทำงานใน 2 ปีที่เหลือสำหรับ ปธน.โจ ไบเดน จาก พรรคเดโมแครต ก็จะยากลำบากยิ่งนัก  

 

ภายหลังที่เกิดกระแสข่าวมานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้นำพรรครีพับลิกันโดยพฤตินัย ก็ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (7 พ.ย.) ว่า เขาจะมี "ประกาศครั้งสำคัญ" ในวันอังคารที่ 15 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก ซึ่งเป็นรีสอร์ตส่วนตัวของเขา สื่อท้องถิ่นคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในปี 2567 และจะเริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้ง


"ผมจะประกาศครั้งสำคัญในวันอังคารที่ 15 พ.ย.นี้ที่รีสอร์ตมาร์อาลาโกในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เพราะเราไม่ต้องการให้มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งสำคัญ" นายทรัมป์กล่าวที่การหาเสียงในรัฐโอไฮโอวานนี้ (7 พ.ย.) ก่อนที่ศึกเลือกตั้งกลางเทอมระหว่างพรรคเดโมแครตและริพับลิกันจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (8 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น

 

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นายทรัมป์กำลังพิจารณาว่าจะประกาศเรื่องการเริ่มต้นหาเสียงประธานาธิบดีครั้งที่ 3 ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอม 1 วันดีหรือไม่ แต่พรรคริพับลิกันวิตกกังวลว่า คำประกาศของเขาจะเป็นการส่งเสริมพรรคเดโมแครตและทำให้พรรคริพับลิกันเสียคะแนนจากผู้ออกเสียงอิสระ


อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โฆษกของนายทรัมป์ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า กิจกรรมวันที่ 15 พ.ย.นี้ จะเป็นการประกาศการเริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายทรัมป์หรือไม่ 

 

ผลการเลือกตั้งกลางเทอมวันนี้ (8 พ.ย.) อาจชี้ชะตาของทั้งคู่

ก่อนจะไปถึงจุดนั้น กลับมาจับตา "รีพับลิกัน" ว่าจะสามารถคว้าชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งกลางเทอมวันนี้ (8 พ.ย.) หรือไม่

 

ทั่วโลกกำลังจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งจะชี้ชะตาทิศทางการเมืองในช่วง 2 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567


การเลือกตั้งกลางเทอมดังกล่าว ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งเก้าอี้ในวุฒิสภาจำนวน 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก


ผลการสำรวจของสำนักโพลส่วนใหญ่พบว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหลังการเลือกตั้งกลางเทอม จากปัจจุบันที่พรรคเดโมแครตมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งอยู่เล็กน้อย

 

ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งก่อนการเลือกตั้งทั้งสองพรรคมีคะแนนเสียงเท่ากันอยู่ที่ 50-50 โดยคะแนนเลือกตั้งใน 4 รัฐ ได้แก่ แอริโซน่า จอร์เจีย เนวาดา และเพนซิลเวเนีย จะชี้ขาดว่าพรรคใดครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา

หย่อนบัตรเลือกตั้งวันนี้ แต่ผลอย่างเป็นทางการอาจต้องรอถึงเดือนธันวาคม
เจ้าหน้าที่หลายรายในทำเนียบขาวยอมรับว่า พวกเขามีความกังวลว่า พรรคเดโมแครตของปธน.โจ ไบเดน อาจสูญเสียการครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยผลสำรวจพบว่า พรรคเดโมแครตอาจเสียเก้าอี้ในวุฒิสภาในหลายรัฐให้แก่พรรครีพับลิกัน หลังจากที่ชาวอเมริกันไม่พอใจต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของรัฐบาล


หากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเหนือพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ ก็จะทำให้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงที่เหลืออีก 2 ปีเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยคาดว่าพรรครีพับลิกันจะขัดขวางการผ่านกฎหมายต่างๆ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเดโมแครตด้วย

 

  • สีสันจาก "อีลอน มัสก์" แนะชาวมะกันโหวตเลือกรีพับลิกัน

นายอีลอน มัสก์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัททวิตเตอร์ได้ทวีตข้อความแนะนำให้ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้กับผู้สมัครของ "พรรครีพับลิกัน"ในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้


"ถึงบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีใจเป็นอิสระ ซึ่งมีอำนาจในการใช้พลังเสียงเพื่อถ่วงดุลอำนาจของทั้งสองพรรค ผมขอแนะนำให้พวกท่านโหวตเสียงให้กับพรรครีพับลิกัน เนื่องจากขณะนี้ประธานาธิบดีของสหรัฐเป็นคนของพรรคเดโมแครต" นายมัสก์กล่าว

อีลอน มัสก์ เชิญชวนผู้ติดตามลงคะแนนให้พรรครีพับลิกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่นายมัสก์เข้าเทกโอเวอร์กิจการทวิตเตอร์ บรรดากลุ่มสิทธิพลเมืองได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของนายมัสก์ที่เปิดเสรีในการพูด จนทำให้พวกกลุ่มสิทธิมองว่าจะเป็นการเพิ่มข้อมูลเท็จและข้อความแสดงความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์


พรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น กำลังเผชิญกับศึกชิงเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ขณะที่ผู้สันทัดกรณีด้านการเลือกตั้งและโพลต่าง ๆ ได้ชี้ไปในทางเดียวกันว่า พรรครีพับลิกันมีโอกาสสูงมากที่จะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคาดว่าทั้งสองพรรคจะได้คะแนนสูสีกันในวุฒิสภา

 

ก่อนหน้านี้ ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายมัสก์ประกาศว่า เขาจะไม่ลงคะแนนให้กับพรรคเดโมแครต และจะหันไปเลือกพรรครีพับลิกันแทนในการเลือกตั้งครั้งหน้า


"ในช่วงที่ผ่านมา ผมโหวตให้เดโมแครต เพราะเป็นพรรคที่มีความโอบอ้อมอารี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นพรรคแห่งการสร้างความแตกแยกและความเกลียดชัง ทำให้ผมทนที่จะสนับสนุนต่อไปไม่ไหว และจะหันไปโหวตให้รีพับลิกันแทน" นายมัสก์ทวีตข้อความวันนี้ (8 พ.ย.) บนทวิตเตอร์


ที่ผ่านมานั้น นายมัสก์ได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนักการเมืองพรรคเดโมแครตที่เสนอให้เก็บภาษีคนรวย รวมถึงการออกสิทธิประโยชน์ด้านภาษีให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานรถยนต์ (UAW) ขณะที่บริษัทเทสลาของนายมัสก์นั้นไม่ได้อยู่ใน UAW

 

  • จะรู้ผลเลือกตั้งเมื่อไหร่

การนับคะแนนเลือกตั้งจะเริ่มจากหน่วยเลือกตั้งทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ โดยจะมีการเริ่มนับคะแนนหลังปิดหีบในช่วงเวลา 19.00-20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเช้าวันพุธที่ 9 พ.ย.เวลา 07.00-08.00 น.ตามเวลาไทย


ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า หากผลการนับคะแนนเป็นไปอย่างสูสี จะทำให้การตัดสินว่าพรรคใดครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสอาจต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากต้องรอคะแนนชี้ขาดจากรัฐทั้งฝั่งตะวันตก


ที่ผ่านมา การนับคะแนนเลือกตั้งในรัฐแคลิฟอร์เนียมักใช้เวลานานหลายสัปดาห์ เนื่องจากทางรัฐจะนับรวมบัตรเลือกตั้งที่มีการส่งทางไปรษณีย์ แม้มีการประทับตราหลังวันที่ 8 พ.ย. ขณะที่รัฐเนวาดาและวอชิงตันอนุญาตให้นับรวมบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเช่นกัน


 นอกจากนี้ หากมีการฟ้องร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในบางรัฐ หรือบางรัฐต้องจัดการเลือกตั้งใหม่เนื่องจากผู้สมัครได้คะแนนไม่ถึง 50% ก็จะส่งผลให้การตัดสินชี้ขาดพรรคที่จะครองสภาคองเกรสต้องล่าช้าออกไปถึงเดือนธ.ค.