อาลัย “ฟิเดล รามอส” อดีตปธน.ฟิลิปปินส์ ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 94 ปี

01 ส.ค. 2565 | 01:17 น.

“ฟิเดล รามอส” อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันอาทิตย์ (31 ก.ค.)  ด้วยวัย 94 ปี ปิดตำนานผู้นำที่เติบโตมาจากสายทหารและนำพาความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาสู่ฟิลิปปินส์ จนได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองและความสงบสุขมากที่สุดยุคหนึ่ง

นายฟิเดล วัลเดซ รามอส เป็น อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ คนที่ 12  เขาเคยเป็นนายทหารที่ร่วมรบในสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนามก่อนจะหันมาเดินหน้าสู่เส้นทางการเมือง และก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคงของประเทศในช่วงยุคสมัยที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ ครองอำนาจ แต่ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายยุคของปธน.มาร์กอส รามอสเป็นนายทหารคนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญออกมาร่วมเคลื่อนไหวในขบวนการปฏิวัติของประชาชนเพื่อขับไล่ปธน.มาร์กอส ลงจากอำนาจ และหลบหนีออกนอกประเทศไปในที่สุด 

 

ต่อมา หลังยุคสมัยของประธานาธิบดี คอราซอน อากีโน รามอสสามารถกุมชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศและขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ในปี 2535 โดยก่อนหน้านั้น เขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีอากีโน

ฟิเดล รามอส อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 94 ปี

รามอสเป็นนักการเมืองที่มาจากสายทหารเนื่องจากจบการศึกษาที่เวสต์พอยต์ หรือโรงเรียนนายร้อยทหารบกของสหรัฐ เขาเคยดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองทัพฟิลิปปินส์ ผู้บัญชาการตำรวจฟิลิปปินส์ และต่อมาจึงเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม

ในสมัยรัฐบาลของนางคอราซอน อากีโน รามอสดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารและต่อมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม

 

รายงานข่าวระบุว่า ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศอยู่ 6 ปีนั้น (เขาดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2535-2541) อดีตปธน.รามอส เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปิดเศรษฐกิจต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ ด้วยการผ่อนคลายกฎเกณฑ์และนโยบายเปิดเสรีต่าง ๆ รวมทั้ง การสลายการผูกขาดในธุรกิจขนส่งและสื่อสารของฟิลิปปินส์ ทั้งยังได้รับการจดจำว่า เศรษฐกิจของประเทศรุ่งเรืองขึ้นและระดับความยากจนลดลงเพราะนโยบายของอดีตผู้นำคนนี้ด้วย

 

นอกจากนั้น อดีตปธน.รามอส ยังเป็นผู้ลงนามข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (Moro National Liberation Front) และเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำให้จำนวนสมาชิกกลุ่มกองโจรนิยมลัทธิเหมาในฟิลิปปินส์ลดลงจาก 25,000 คนลงมาเหลือราว ๆ  5,400 คนอีกด้วย

ภายใต้การปกครองของฟิเดล รามอส ฟิลิปปินส์มีความมั่นคงทางการเมืองและมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งการขยายตัวเป็นผลมาจากนโยบายและโครงการของเขาได้รับการออกแบบเพื่อส่งเสริมให้เกิดการปรองดองแห่งชาติและความสามัคคี รามอสเองก็สามารถที่จะสร้างเสริมข้อตกลงสันติภาพที่สำคัญกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนมุสลิม กลุ่มก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และกบฏทหาร ซึ่งความสำเร็จในเรื่องนี้ ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์มากขึ้น  

 

นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน ออกแถลงการณ์วานนี้ (31 ก.ค.) ระบุว่า “ครอบครัวของเราขอไว้อาลัยร่วมกับประชาชนชาวฟิลิปปินส์ในวันอันน่าเศร้านี้ เราไม่ได้เพียงแต่สูญเสียผู้นำที่ดีไปหนึ่งคน แต่ยัง(สูญเสีย)สมาชิกของครอบครัวเราไปด้วย”