WHO เตือนประชาคมโลก เตรียมรับมือ “โควิดระลอกใหม่”

07 ก.ค. 2565 | 22:31 น.

องค์การอนามัยโลกเตือนนานาประเทศเตรียมพร้อมรับโควิดระลอกใหม่ ซึ่งมียุโรปเป็นศูนย์กลาง เนื่องจากมีงานมหกรรมจำนวนที่ประชาชนไปรวมตัวทำกิจกรรมร่วมกัน รวมทั้งมีการเปิดเสรีการเดินทางเพิ่มมากขึ้น

องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนนานาประเทศให้เตรียมรับมือกับ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่กำลังเริ่มแพร่กระจายไปทั่ว ซึ่งจะนำไปสู่ การระบาดใหญ่ระลอกใหม่ และขอให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขทั้งหลายเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ติดและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

 

ตัวเลขล่าสุดจาก WHO แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 30% ทั่วโลกในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีไวรัสโควิด “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อยคือ BA.4 และ BA.5 เป็นสายพันธุ์หลักที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกัน WHO กำลังจับตาสายพันธุ์ย่อย BA2.75 ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีการตรวจพบในอินเดียด้วย

 

สถิติปัจจุบันนั้นระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสไปแล้วเกือบ 558 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเพราะอาการป่วยโควิด-19 ถึงกว่า 6.3 ล้านคนแล้ว

นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวว่า การทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 นั้นลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถเข้าใจถึงระดับความรุนแรงของการระบาดระลอกล่าสุดนี้ได้อย่างถ่องแท้ พร้อมเตือนว่า สถานการณ์ดังกล่าวหมายถึง การที่ผู้คนจำนวนมากไม่ได้รับการรักษาที่จำเป็นเพื่อป้องกันอาการป่วยหนักหรือการเสียชีวิต

เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก

เกเบรเยซุสกล่าวเมื่อวันพุธ (6 ก.ค.) ว่า ปัญหาก็คือ ขณะที่ไวรัสยังคงกลายพันธุ์อยู่ต่อไป แต่การรับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยหนักและการเสียชีวิตกลับอยู่ในทิศทางที่ลดลง ซึ่งการลดลงของการสร้างภูมิคุ้มกันนี้ ชี้ให้เห็นถึง ความสำคัญของวัคซีนกระตุ้นภูมิ (boosters) โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงสูง

 

ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ยังกล่าวด้วยว่า อันตรายที่มาจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้นอยู่ในระดับที่สูงสำหรับประเทศพัฒนาแล้ว แต่ยิ่งร้ายแรงมากขึ้นในประเทศยากจน ที่ซึ่งผู้คนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาใหม่ ๆ และการรับยาต้านไวรัสแบบรับประทานได้

 

ในวันเดียวกัน นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการด้านงานสาธารณสุขฉุกเฉินของ WHO กล่าวเสริมว่า ทุกประเทศล้วนมีช่องว่างในงานด้านความพร้อม การเตรียมตัว และการเฝ้าระวังภัยในระดับชาติ เขาขอย้ำว่า ทุกประเทศต้องทำงานมากขึ้นเพื่อยกระดับความพร้อมในการรับมือกับภาวะ “ระบาดใหญ่” เป็นวงกว้าง เพื่อจัดกับการการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้

องค์การอนามัยโลกยังเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขที่ได้รับการทดสอบและทดลองใช้มาแล้ว เช่น การเข้ารับการตรวจสอบการติดเชื้อ การสวมใส่หน้ากากป้องกัน และการรับวัคซีนป้องกันโควิด

การเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ

“การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดในยุโรปในช่วงฤดูร้อน ทั้งที่การแพร่ระบาดควรจะชะลอลงเนื่องจากผู้คนออกมาทำกิจกรรมในที่โปร่งโล่งแจ้งกันมากขึ้น เป็นผลมาจากการทำกิจกรรมที่พวกเขาเข้าไปร่วมชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก เช่นการเข้าชมงานแสดงคอนเสิร์ต หรือออกไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น” ไรอัน ผู้อำนวยการด้านงานสาธารณสุขฉุกเฉินของ WHO กล่าว และว่า สิ่งที่ยังเป็นข่าวดีคือ การแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ยังไม่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในระดับวิกฤต (หรือผู้ป่วย ICU) หรือการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนป้องกัน

 

ตัวอย่างจากประเทศอังกฤษที่ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 32% และยอดผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยสูงวัยอาการวิกฤตที่รับการรักษาในห้อง ICU มีจำนวนมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น ยอดผู้ป่วยโควิดที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขณะนี้ยังถือว่าน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดใหญ่ระลอกที่ผ่าน ๆมา ซึ่งนั่นเป็นผลจากการฉีดวัคซีน ซึ่งทำให้การเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการรุนแรงและการเสียชีวิตลดน้อยลง   

 

ดังนั้น WHO ย้ำว่า สิ่งที่สำคัญก็คือ การเร่งการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ระบบทดสอบการติดเชื้อ และการรักษาแบบใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้โลกสามารถรับมือกับวิวัฒนาการของโคโรนาไวรัสได้ทันท่วงที

 

ข้อมูลอ้างอิง