ฮ่องกงวิกฤต! อัตราการเสียชีวิตจากโควิดสูงที่สุดในโลก

12 มี.ค. 2565 | 23:01 น.

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า ฮ่องกงกลายเป็นดินแดนที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงที่สุดในโลกที่ 29.18 คนต่อประชากร 1 ล้านคน แม้ฮ่องกงจะผ่านช่วงระบาดหนักที่สุดไปแล้วและยอดผู้ติดเชื้อก็เริ่มลดลงบ้างแล้วก็ตาม

อัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ต่อประชากร 1 ล้านคนของ ฮ่องกง เป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก โดยข้อมูลจาก Our World in Data ระบุว่า ฮ่องกงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 29.18 คนต่อประชากร 1 ล้านคน คำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 7 วันนับจนถึงวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

วีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐอเมริการายงานว่า แม้ฮ่องกงจะแจกจ่ายวัคซีนกว่า 13 ล้านโดสให้ประชากร 7.4 ล้านคนแล้ว แต่อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำในกลุ่มประชาชนสูงอายุก็เป็นสาเหตุของอัตราการเสียชีวิตที่สูง ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า มีประชาชนอายุมากกว่า 70 ปี เพียง 61% และประชาชนอายุมากกว่า 80 ปี เพียง 32% เท่านั้น ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว

อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำในกลุ่มประชาชนสูงอายุ ก็เป็นสาเหตุของอัตราการเสียชีวิตที่สูงในฮ่องกง

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 91% จากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2,578 คนของฮ่องกง เสียชีวิตในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 70 ปี และเมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) ฮ่องกงมียอดผู้เสียชีวิตใหม่ 160 คน

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกงให้ความสำคัญกับ ยุทธศาสตร์ “โควิดเป็นศูนย์” โดยเป็นนโยบายควบคุมการระบาดแนวทางเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ แม้นโยบายดังกล่าวจะประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ภายในปีนี้เพียงปีเดียว ฮ่องกงกลับมียอดผู้ติดเชื้อสูงกว่ายอดเมื่อ 2 ปีที่แล้วรวมกัน เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

 

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพในฮ่องกงระบุว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของฮ่องกงนั้นไม่อิงอยู่กับความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม เหลียง หว่านเหนียน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน บอกกับสื่อทางการจีนว่า นโยบายดังกล่าวทำให้เป็นจริงได้ตามลำดับขั้น และจะต้องมีการลดยอดผู้เสียชีวิตลงก่อน

 

ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงยังระบุว่า การเพิ่มเตียงให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อยังจำเป็นต่อการลดอัตราผู้เสียชีวิตในฮ่องกงด้วย โดยเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หน่วยงานโรงพยาบาลฮ่องกงระบุว่า โรงพยาบาลในฮ่องกงรองรับผู้ป่วย 89% จากความจุทั้งหมด ทำให้รัฐบาลฮ่องกงติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้างจากจีนให้สร้างอาคารการแพทย์แห่งใหม่เพื่อช่วยบรรเทาภาระทางสาธารณสุขของฮ่องกง

ฮ่องกงกำลังเผชิญภาวะผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ มีผู้ป่วยหลายสิบคนที่ต้องนอนรอบนเตียงผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลท่ามกลางอากาศหนาว โดยเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลคาริสตา (Carista Hospital) ในฮ่องกงระบุว่า ผู้ป่วยสูงอายุไม่สามารถกักตัวแยกจากผู้อื่นได้ เนื่องจากพวกเขามาจากศูนย์ดูแลคนชราแห่งเดียวกัน ผู้ป่วยเหล่านี้จึงไม่มีทางเลือกนอกจากนอนรอหน้าโรงพยาบาลที่รับคนไข้จนเต็มแล้ว

 

จากการคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์โควิดในฮ่องกงของ ดร. เดวิด โอเวนส์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลีนิคกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง เขาเห็นว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดไปแล้วเมื่อ 3-4 วันก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วและกลับมาอยู่ในระดับต่ำสุดภายในปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (7 มี.ค.) รัฐบาลฮ่องกงเปิดระบบออนไลน์ให้ประชาชนบันทึกสถานะการติดเชื้อหลังตรวจเชื้อแบบ Rapid Antigen Test ได้

 

ทั้งนี้ นางแคร์รี แลม ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง ประกาศแผนตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบครอบคลุมสำหรับประชาชนทั้งหมดภายในเดือนมี.ค.นี้ โดยเป็นการตรวจแบบ nucleic acid test สื่อท้องถิ่นรายงานว่า โครงการตรวจดังกล่าวจะเริ่มในวันที่ 26 มี.ค. และจะใช้เวลา 9 วัน

 

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า โครงการดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนหน้า เพื่อให้รัฐบาลเน้นรับมือกับการลดอัตราการเสียชีวิตในฮ่องกงก่อน

 

ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกง เผยแพร่การคาดการณ์ความรุนแรงของการระบาดระลอกที่5ของเชื้อไวรัสในฮ่องกง โดยการคาดการณ์ว่า หากสถานการณ์ในฮ่องกงยังคงเป็นเช่นนี้ อาจมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 5,000 คนในเดือนพ.ค. และอาจได้รับผลกระทบหากคนไข้ล้นระบบสาธารณสุขของฮ่องกง ในขณะที่รายงานคาดการณ์อีกฉบับที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า ฮ่องกงอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิดถึง 7,000 คนภายในเดือนมิ.ย. ที่จะถึงนี้