"โมเดอร์นา" เร่งพัฒนาวัคซีน 15 ชนิดต่อสู้โรคระบาดในอนาคต

08 มี.ค. 2565 | 05:10 น.

"โมเดอร์นา" จับมือพันธมิตร เร่งพัฒนาและทำการทดลองวัคซีนรุ่นใหม่ที่จะสามารถป้องกันไวรัสที่อาจก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงในอนาคตถึง 15 ชนิด นอกจากนี้ ยังใจป้ำพร้อมมอบสิทธิบัตรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างถาวรให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางด้วย

บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ เปิดเผยวานนี้ (7 มี.ค.) ว่า บริษัทมีแผนจะพัฒนาและเริ่มการทดลอง วัคซีนที่จะสามารถป้องกันไวรัส 15 ชนิด ที่ก่อให้เกิด โรคระบาดร้ายแรง ภายในปี 2568 ขณะเดียวกัน โมเดอร์นาจะมอบ สิทธิบัตรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างถาวรให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง

 

นอกจากนี้ โมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ยังเปิดเผยว่า บริษัทจะแบ่งปันเทคโนโลยี mRNA ให้กับบรรดานักวิจัยที่ทำการพัฒนาวัคซีนใหม่ ๆ เพื่อจะใช้รับมือกับโรคอุบัติใหม่และโรคที่ไม่ได้รับการรักษาหรือโรคที่ถูกละเลย (Neglected Disease) ผ่านทาง โครงการที่ชื่อว่า "mRNA Access"

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเปิดเผยแผนดังกล่าวของโมเดอร์นามีขึ้นก่อนที่จะมี การจัดประชุมสุดยอดว่าด้วยการเตรียมรับมือโรคระบาดระดับโลก (Global Pandemic Preparedness Summit) ซึ่งสนับสนุนโดยรัฐบาลอังกฤษ และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือกับโรคระบาด (CEPI) ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้วเพื่อเตรียมรับมือกับภัยคุกคามจากโรคร้ายแรงในอนาคต

นายสตีเฟน ฮอก ประธานบริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยว่า โมเดอร์นาได้ร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรเกี่ยวกับวัคซีนที่ใช้ในการต่อต้านโรคระบาด 15 ชนิด ซึ่งรวมถึง โรคชิคุนกุนยา, โรคไข้เลือดออกไครเมียคองโก, โรคไข้เลือดออก, โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา, โรคมาลาเรีย, โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก, โรคไข้ลาสซา, โรคเมอร์ส และโรคโควิด-19

 

ความร่วมมือดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสต่าง ๆ ดังนี้

  • ไวรัสนิปาห์ (Nipah) พัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ
  • วัคซีนป้องกัน HIV พัฒนาร่วมกับมูลนิธิเกตส์ และการริเริ่มวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ระหว่างประเทศ (Gates Foundation and the International AIDS Vaccine Initiative)

สเตฟาน แบนเซล ซีอีโอบริษัทโมเดอร์นา

นายสเตฟาน แบนเซล ซีอีโอบริษัทโมเดอร์นากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมานั้น บริษัทผลิตยารายใหญ่หลายแห่งไม่ได้พูดถึงไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบาด 15 ชนิดดังกล่าว จนกระทั่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านคนและมีผู้ป่วยหลายล้านคนนั้น ได้ทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง

 

"มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมากเกินไปภายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา" นายบันเซลกล่าว