"โจ ไบเดน"ไถ่ชีวิตไก่งวง ฉลองครบรอบวันเกิด 79 ปี

19 พ.ย. 2564 | 22:42 น.

20 พ.ย. เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 79 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า เขาเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา

ทำเนียบขาวแถลงวานนี้ (19 พ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีก่อนที่จะทำพิธีไถ่ชีวิตไก่งวงตามธรรมเนียมก่อนถึงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น ประธานาธิบดีไบเดน จะเดินทางไปยังบ้านเกิดของเขาในรัฐเดลาแวร์เพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 79 ในวันที่ 20 พ.ย.กับครอบครัว

 

ไบเดนเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เขายังเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งเขาจะมีอายุ 82 ปีในขณะนั้น         

 

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) โจ ไบเดน ได้มอบโอนอำนาจให้นางคาเมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ได้ดำรงตำแหน่ง “ประธานาธิบดีรักษาการ” เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากตัวไบเดนเองต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ซึ่งในกระบวนการตรวจ แพทย์ต้องให้ “ยาสลบ” แก่ประธานาธิบดี

 

ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ให้รายละเอียดว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้โอนอำนาจให้นางแฮร์ริสเป็นรักษาการประธานาธิบดีสหรัฐเป็นการชั่วคราว ก่อนที่เขาจะเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีที่ศูนย์การแพทย์วอลเตอร์ รีดในเมืองเบเทสดา รัฐแมรีแลนด์ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจำเป็นต้องให้ยาสลบแก่ไบเดนก่อนทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งหนึ่งแล้วในวันนี้ (20 พ.ย.)  

ถึงรูปลักษณ์จะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย... แต่รอยยิ้มนั้น ไม่เคยเปลี่ยน

หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสุขภาพ ประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางกลับสู่ทำเนียบขาวเพื่อทำพิธีไถ่ชีวิตไก่งวงตามธรรมเนียมก่อนถึงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์หน้า (วันขอบคุณพระเจ้าตรงกับวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ตรงกับวันพฤหัสฯที่ 25 พ.ย.) และต่อจากนั้น เขาจะเดินทางไปยังบ้านเกิดในรัฐเดลาแวร์เพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 79 กับครอบครัว

 

โจ ไบเดน หรือชื่อเต็มว่า โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดน จูเนียร์ (Joseph Robinette Biden, Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2485 (ค.ศ. 1942) ที่เมืองสแครนตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย เขาอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ขวบจึงย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์จวบจนปัจจุบัน ความขัดสนยากจนในวัยเด็กทำให้ชีวิตของโจ ไบเดน มากด้วยปัญหาและความท้าทาย ต้องกัดตีนถีบทำงานรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ หาเงิน แต่ความยากลำบากก็หล่อหลอมให้เขามีความอดทน และมุมานะเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เขาสนใจการเมืองตั้งแต่เด็กโดยมีจอห์น เอฟ. เคนเนดี และริชาร์ด นิกสัน เป็นบุคคลต้นแบบ ไบเดนตัดสินใจเลือกเรียนทางด้านกฎหมาย และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์จนสำเร็จการศึกษา ก่อนจะเริ่มการทำงานเป็นทนายความ

โจ ไบเดน กับสถิติ “ที่สุด”ของสหรัฐ

ไบเดนประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513 การได้ทำงานคลุกคลีกับปัญหาของผู้คนที่เป็นลูกความ ทำให้โจ ไบเดน ยิ่งมุ่งมั่นสนใจงานการเมือง และนับตั้งแต่ปี 2515 เป็นต้นมา เขาก็ได้รับเลือกตั้งเป็นสภาชิกวุฒิสภาของรัฐเดลาแวร์ โดยเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

 

 นอกจากนี้ เขายังสามารถครองตำแหน่งยาวนานถึง 36 ปี โดยนับจากเข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิกครั้งแรกในปี 2515 จากนั้นมา เขาก็ชนะการเลือกตั้งอีกในปี 2521, 2527, 2533, 2539 และ 2545 นับเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ครองตำแหน่งได้ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ

 

ไบเดนเคยลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2531 และ 2551 แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้ง 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 บารัก โอบามา ผู้สมัครที่ได้ตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตตัดสินใจเลือกไบเดนเป็นคู่หู ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2551 ซึ่งทั้งคู่ประสบความสำเร็จ โจ ไบเดน ได้เป็นรองประธานาธิบดีในสมัยการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีบารัก โอบามา (ดำรงตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2552 - 20 มกราคม 2560)

ไบเดนไถ่ชีวิตไก่งวงสองตัวที่ทำเนียบขาว

เมื่อตอนที่ไบเดนประกาศจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในพ.ศ. 2563 เขาเลือกนางคามาลา แฮร์ริส นักกฎหมายและสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นคู่สมัครรับเลือกตั้ง เสริมทีมเลือกตั้งให้แข็งแกร่งเพราะคามาลาเป็นนักการเมืองสตรีผิวสีที่มากความสามารถและเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

ทั้งคู่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย สามารถโค่นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สำเร็จ โจ ไบเดน ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา เขาสร้างสถิติใหม่อีกครั้งด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะเข้ารับตำแหน่ง และยังเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มีรองประธานาธิบดีเป็นสตรี

 

ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเป็นหลักประกันยืนยันได้ว่า พร้อม ๆกับตัวเลขอายุที่สูงขึ้นนั้น อุปสรรคชีวิตที่ผ่านมามากมาย ทำให้โจ ไบเดน มีมุมมองที่สุขุม แข็งแกร่ง และไม่เคยย่อท้อให้กับอุปสรรคใด ๆที่ขวางหน้า เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 220-213 ให้การอนุมัติร่างกฎหมาย Build Back Better วงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการออกมาตรการช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาโลกร้อน

 

นับเป็นข่าวดีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ออกมาในจังหวะพอเหมาะพอดีกับการฉลองวันคล้ายวันเกิดของเขาในปีนี้