วิบากกรรม “เฟซบุ๊ก” ข่าวฉาวรุม-ระบบล่ม-หุ้นร่วงหนัก

05 ต.ค. 2564 | 02:15 น.

“เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรม” กลับมาใช้งานได้แล้ว หลังระบบล่มนานเกือบ 6 ชม. ราคาหุ้นเฟซบุ๊กดิ่งลงทันทีเกือบ 5% (4 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. 2563 และเป็นการปรับลดต่อเนื่องตั้งแต่เดือนก.ย. หลังสื่อใหญ่ปูดข่าวฉาวจากข้อมูลวงในเป็นระลอกๆ  

เฟซบุ๊ก รวมทั้ง อินสตาแกรม และ WhatsApp ซึ่งเป็นบริการในเครือของเฟซบุ๊ก สามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งในช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย หลังจากเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและทำให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกไม่สามารถเข้าใช้งานได้เป็นเวลานานเกือบ 6 ชั่วโมง

 

เว็บไซต์ Downdetector.com เปิดเผยว่า เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ WhatsApp ประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเมื่อเวลา 23.00 น.ตามเวลาไทยเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ก่อนที่จะเริ่มกลับมาใช้งานได้อีกครั้งในเวลา 04.45 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นปัญหาระบบล่มที่กินเวลานานที่สุดนับตั้งแต่ Downdetector.com ได้รวบรวมการแจ้งปัญหาการใช้งานทั้งบนเว็บไซต์และเครือข่ายเคลื่อนที่

 

ปัญหาระบบล่มในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นเฟซบุ๊กดิ่งลงทันทีเกือบ 5% ในวันจันทร์ (4 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. 2563 ก่อนที่จะปิดตลาดร่วง 4.89% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ซึ่งรวมถึงนายโจนาธาน ซิตเทรน ผู้อำนวยการสถาบัน Berkman Klein Center for Internet & Society แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากการขัดข้องของระบบอินเทอร์เน็ต แต่ในทางทฤษฎีนั้น ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการโจมตีของบุคคลภายในองค์กร

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กเคยประสบเหตุการณ์ระบบล่มในปี 2551 ทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งาน ต้องใช้เวลากู้ระบบถึง 1 วันกว่าจะกู้คืนกลับมาได้  

 

สารพันข่าวฉาวรุมเร้า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปัญหาระบบล่มเมื่อวานนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ปลีกย่อยซ้ำเติมสถานการณ์ของเฟซบุ๊กที่มีปัญหามาก่อนแล้ว  โดยราคาหุ้นของเฟซบุ๊กได้เริ่มปรับลดลงมาตั้งแต่เดือนก.ย. จากสารพัดข่าวเชิงลบที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท

 

เริ่มจากรายงานข่าวในเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ที่ตีแผ่เรื่องไม่ชอบมาพากลในองค์กร ซ้ำเติมด้วยการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CBS ในรายการ "60 Minutes"ของฟรานเซส ฮอเก็น อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ที่ออกมาเปิดหน้า ระบุว่า คือเธอเองที่เป็นบุคคลวงในที่นำข้อมูลลับของบริษัทออกมาเปิดเผยผ่านสื่อดังที่เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ได้นำมารายงานข่าวเป็นตอน ๆ ภายใต้ชื่อรายงาน “เปิดแฟ้มเฟซบุ๊ก” (the Facebook Files) ตีแผ่เรื่องราวเชิงลบด้านต่าง ๆ เช่น กฎกติกาของเฟซบุ๊กที่เอื้อประโยชน์ให้ชนชั้นสูงในสังคม การใช้บทความที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กสร้างความขัดแย้งแตกแยกทางสังคม การใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กในด้านมืดโดยขบวนการค้ายาเสพติดและแก๊งค้ามนุษย์ รวมทั้งผลกระทบของอินสตาแกรมที่มีต่อสุขภาพจิตของบรรดาวัยรุ่นผู้หญิง

 

ในบรรดาข้อมูลวงในที่ถูกนำมาเปิดเผยนั้นยังรวมถึงการให้สัมภาษณ์ของพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานบางคนของเฟซบุ๊กด้วย 

 

คนวงในแฉเอง ทุบหุ้นร่วงเป็นประวัติการณ์ 

นับตั้งแต่ที่สื่อใหญ่อย่างเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล นำเรื่องราวที่ฮอเก็น อดีตพนักงานระดับผู้จัดการของเฟซบุ๊กนำมาแฉ โดยเริ่มบทความตอนแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ หุ้นของเฟซบุ๊กได้ร่วงลงมาแล้วประมาณ 14%

 

ฮอเก็นเผยว่า เหตุผลที่เธอตัดสินใจนำเรื่องราวในองค์กรเฟซบุ๊กออกมาตีแผ่นั้นก็เพราะเห็นว่าบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้ เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องเงินๆทองๆ และผลกำไรมากกว่า ความมั่นคงปลอดภัยทางสังคม “เฟซบุ๊กทำให้ชีวิตของผู้คนมีความเสี่ยง” ฮอเก็นกล่าว   

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเฟซบุ๊กเองได้ออกมาตอบโต้การให้สัมภาษณ์ของฮอเก็นในรายการ "60 Minutes"โดยทำจดหมายชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เนื้อหาโดยสรุประบุว่า ทุกๆวันทีมงานของเฟซบุ๊กพยายามรักษาสมดุลอันดีระหว่างการปกป้องสิทธิของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวนหลายพันล้านคนให้พวกเขาได้มีโอกาสแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสภาพแวดล้อมให้แพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กนั้นมีความปลอดภัยและเป็นเวทีของพลังสร้างสรรค์เชิงบวก ทีมงานพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปรับปรุงระบบเพื่อจะสามารถจัดการและสกัดกั้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จและเนื้อหาที่เป็นอันตราย ดังนั้นการกล่าวหาว่า เฟซบุ๊กส่งเสริมการเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นเท็จหรือเนื้อหาที่ไม่ดี โดยไม่คิดทำอะไรเลยนั้น จึงเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่เป็นความจริง