สื่อ-นักวิเคราะห์ต่างชาติเกาะติดคดี "ยิ่งลักษณ์"
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็นรอยเตอร์ส เอพี บีบีซี บลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น นิวยอร์ก ไทม์ส ไฟแนนเชียล ไทม์ส วอลล์ สตรีต เจอร์นัล และอีกหลายสื่อ ต่างเกาะติดข่าวการตัดสินคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันศุกร์ (25 สิงหาคม) โดยรายงานเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันว่าอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยไม่มาปรากฏตัวที่ศาล โดยทนายความให้เหตุผลว่ามีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน และศาลได้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมกับเลื่อนการอ่านคำตัดสินออกไปเป็นวันที่ 27 กันยายน
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศล้วนแต่ชี้ว่าคดีดังกล่าวมีโอกาสสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองและเปลี่ยนแปลงบรรยากาศทางการเมืองในไทย โดยบลูมเบิร์กระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งถูกรัฐประหารเมื่อปี 2557 มีโอกาสถูกจำคุกถึง 10 ปีถ้าศาลตัดสินว่ามีความผิดจากกรณีโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งคำตัดสินเสี่ยงที่จะเปิดรอยร้าวในสังคมไทยที่เป็นชนวนให้เกิดการปะทะกันที่รุนแรงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่สำนักข่าวเอพีกล่าวว่า คำตัดสินถูกมองว่าเป็นคำพิพากษาทางการเมืองมากพอๆ กับคำพิพากษาทางอาญา โดยคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคดีล่าสุดที่มีการฟ้องร้องฝ่ายการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของเธอซึ่งถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549
ฝ่ายนักวิเคราะห์ชาวต่างชาติได้มีการออกมาแสดงทรรศนะต่อเรื่องนี้เช่นเดียวกัน อาทิ นายพอล แชมเบอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสถาบันเอเชียอาคเนย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความเห็นว่า ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดหรือไม่ จะต้องสร้างความโกรธเคืองให้กับฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ประเทศไทยยังคงมีความเห็นแตกแยกในเรื่องของตระกูลชินวัตรอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะผ่านมา 16 ปีหลังจากที่ทักษิณ ชินวัตรได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก”
นายแพทริค โจรี อาจารย์อาวุโสด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ในออสเตรเลีย มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ศาลจะมีคำพิพากษาให้น.ส. ยิ่งลักษณ์มีความผิด และบทลงโทษอย่างน้อยที่สุดก็จะถูกห้ามไม่ให้เล่นการเมือง แต่โอกาสถูกจำคุกนั้นคงเป็นไปได้น้อย เพราะจะสร้างความแตกแยกทางการเมืองอย่างหนัก
ขณะที่บีเอ็มไอรีเสิร์ช บริษัทวิจัยในเครือของ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อ ฟิทช์กรุ๊ป ชี้ว่า หากศาลพิพากษาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดจริง ก็อาจทำให้บรรดาผู้สนับสนุนออกมาประท้วง แต่การมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในมือจะทำให้รัฐบาลทหารไทยสามารถคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ความเสี่ยงทางการเมืองของไทยในระยะสั้นยังมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค