นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ปราศรัยที่จังหวัดระยองทวงสัจจะของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลตามเอ็มโอยู ในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์ ยังมีสิทธิ์ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แค่เป็นการส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาลเท่านั้น
โดยเวทีที่นายพิธา กล่าวประโยคนี้นั้น เป็นการปราศรัยในระหว่างการพบปะผู้สนับสนุนที่ตลาดดิโอโซน อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งจัดงานสุราก้าวหน้าพลังแห่ง Soft Power เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา
นายพิธา ได้กล่าวบนเวทีบางช่วงว่า เรื่องสุราก้าวหน้าเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่พรรคก้าวไกลต้องการยืนยันว่าเรารักษาสัจจะ ก่อนเลือกตั้งอย่างไรหลังเลือกตั้งยังเหมือนเดิม และทำให้นโยบายที่เกิดขึ้นมาได้ เชื่อว่ายังอยู่ในช่วงเวลาของการจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 27 ก.ค.นี้จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ได้ชื่อของตัวเองเป็นแล้วก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นประชาชนที่มาร่วมงานก็พากันส่งเสียงตะโกนเรียก "นายก พิธาๆ"
นายพิธา กล่าวต่อว่า “แต่ยังไม่หมดสิทธิ์เป็นนายกฯนะบอกไว้ก่อน แค่ส่งไม้ต่อให้กับเพื่อไทยเท่านั้น แต่สิทธิ์การเป็นแคนดิเดตนายกยังอยู่เต็ม 100% แน่นอน เพราะเราเอาประเทศมาก่อน เอาบ้านเมืองมาก่อน แล้วเรารู้ว่าพ่อแม่พี่น้องชาวระยองต้องการมีรัฐบาลโดยเร็ว เพราะฉะนั้นประเทศนี้สำคัญกว่าตัวผมมากๆ ถึงแม้ว่าพิธา จะได้เป็นนายกหรือไม่ได้เป็นนายกก็ไม่สำคัญ ก้าวไกลเป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาสัจจะกับการหาเสียงต่อพี่น้องชาวระยองไว้ และสิ่งสำคัญก็คือยุติการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการให้ได้”
นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่คิดว่า ก่อนเลือกตั้งเคยพูดอะไรไว้ เคยให้สัจจะกับประชาชนยังไงไว้ ก็ต้องพยายามที่จะรักษาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นนายกหรือไม่ได้เป็นนายก ไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่การรักษาฉันทามติกับประชาชน 25 ล้านเสียง ที่ให้ไว้กับ 2 พรรคใหญ่ 27 ล้านเสียงที่ให้ไว้กับ 8 พรรค จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งรัฐบาล 8พรรคให้ได้
มาวันนี้ พรรคก้าวไกลตั้งใจจะรักษาเรือลำนี้ที่เราได้ลงไว้ และหวังว่าสักวันหนึ่งเรือจะผลักดันการเพิ่มผลมูลค่าสินค้าการเกษตรให้กับชาวระยอง ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ ทำให้เศรษฐกิจดี ซึ่งจะรักษาสัจจะกับพี่น้องชาวระยอง จึงขอให้วันที่ 27 ก.ค.นี้ขอให้พี่น้องชาวระยองช่วยให้กำลังใจกับพวกเราทั้ง 8 พรรคด้วย
นายพิธา ยังพูดถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนา และอำเภอเมือง เพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาลรักษาการให้ช่วยแก้ปัญหา พร้อมขอให้นักการเมืองทุกคน อย่าสนใจแต่เรื่องการเมืองมากเกินไป ขอให้เอาความผาสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะประชาชนยังยากลำบากอย่างยิ่ง จึงเป็นหน้าที่ของตนที่ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ที่ประชาชนเคยให้ความไว้วางใจอย่างถล่มทลายเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในสภาตอนนี้ แต่จะได้กลับไปแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายพิธา ถามประชาชนว่า “วันที่ประชุมรัฐสภามีสื่อมวลชนทำข่าวมากมาย ไม่รู้ว่ามีใครเห็นพิธาเดินออกจากสภา ผ่านช่องไอทีวีบ้าง ยกมือหน่อย ใครเคยฟังดีเบตมากมายหลายช่อง ใครเคยเห็นดีเบตพิธาในช่องไอทีวีบ้าง ยกมือให้ดูหน่อย ตอนนี้อยากดูว่าไอทีวีถ่ายทอดสดอยู่ที่ไหนใครบอกได้บ้าง ว่าต้องช่องไหนเนี่ย มันไม่มีใครที่เลือกคนคนนี้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะได้ดูการดีเบตผ่านช่องไอทีวี หรอกครับ ไม่มี!”
นายพิธา กล่าวอีกว่า จึงมั่นใจมากในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ทั้งในแง่หลักการ และในแง่หลักฐาน และเชื่อเหลือเกินว่าจะมีโอกาสได้เดินกลับเข้าสภา และเผลอๆจะได้เดินเข้าทำเนียบรัฐบาลด้วย แค่ขอให้เห็นหัวประชาชนบ้าง มาถึงจุดนี้ต้องย้ำอีกครั้งว่า ใครจะปล่อยมือจากเราก็ช่าง ขอแต่พวกเราประชาชนจับมือกันไว้ให้มั่นๆ ก็พอจำความรู้สึกและความหวังที่พวกเรามีด้วยกัน
นายพิธา ยังกล่าวอีกว่า ถ้าพี่น้องประชาชนเคยฟังดีเบต เคยฟังคุณสมบัติของตน ชื่นชอบนโยบายดีๆทั้ง สุราก้าวหน้า รัฐสวัสดิการ นโยบายแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศดีๆที่พวกเราเคยมีก่อนการเลือกตั้ง พอหลังการเลือกตั้งแล้ว ขอให้พวกเราจำความหวังแบบนั้นไว้ อย่าปล่อยมือกัน ใครเขาจะถีบเราลงเรือ เราบอกเราไม่ลง เราขอชวนพวกเขากลับ รักษาสัจจะที่มีไว้กับประชาชนช่วยซ่อมเรือให้แข็งแรงแล้วเดินหน้าไปด้วยกัน ช่วยกันส่งเสียงว่า 25 ล้านเสียง มีความหมายไม่น้อยกว่า 250 เสียง
“บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีวิถีของมันอยู่ ขอให้กลับมายึดเอาวิถีที่มีประชาชนเป็นที่ตั้งร่วมกัน สำหรับประชาชนที่ถามว่า พรรคก้าวไกลจะเอายังไง คุณพิธาจะเอายังไง ตัดสินใจง่ายนิดเดียว เอาหลักการมาเป็นที่ตั้ง คิดถึงประชาชนไว้เยอะๆ แล้วรักษาสัจจะ สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร ก็รักษาสัจจะกับประชาชน เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้ มันจะยากตรงไหนเล่า ตอนเวทีดีเบตเคยพูดไว้อย่างไรก็ทำแบบนั้น หากคิดไม่ออกให้มาฟังเสียงประชาชน ถ้าเวียนหัวมากคิดไม่ออก ก็มาฟังเสียงประชาชนที่หาเสียงไว้สิ”
จากนั้นนายพิธา ได้ขอเสียงให้กับนักการเมืองที่ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งประชาชนก็ส่งเสียงดังลั่นตลาดดิโอโซน
“บอกนักการเมืองที่สับสนอยู่ ว่าเขาไม่ควรจะตัดสินใจอย่างไร ให้ฟังเสียงประชาชนที่ส่งคะแนนให้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. แค่นี้ก็ตัดสินใจได้แล้ว ก่อนเลือกตั้งเนี่ยฟังประชาชน หลังเลือกตั้งแล้วลืมประชาชน คราวหน้าจะเลือกเขากลับมาอีกมั้ย” นายพิธา ถาม จากนั้นประชาชนตอบพร้อมกันว่า “ไม่”