"ปิยบุตร" ชี้คนเก่าอยากมีอำนาจ กลัวไม่แลนสไลด์ ชวนกาก้าวไกล 2 ใบ

13 พ.ค. 2566 | 00:38 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2566 | 00:40 น.

"ปิยบุตร" ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ชี้ปรากฏการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่ง ชวนกาก้าวไกล 2 ใบทั้งเขต ทั้งพรรค ลั่น 14 พฤษภาคือการเลือกระหว่างอดีตกับอนาคต ชี้คนในอดีตอยากมีอำนาจ กลัวไม่แลนด์สไลด์

เวทีปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกล ที่จัดขึ้นวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง ได้เริ่มปราศรัยในเวลา 18.00 น. ภายใต้แคมเปญ คำตอบสุดท้าย “ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” เปิดเวทีด้วย นางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกร นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยต่อจาก นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล

นายปิยบุตรกล่าวว่า ที่แห่งนี้ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันที่ 22 มีนาคม 2562 ตนมายืนอยู่ที่นี่ที่เดียวกันนี้ ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ 4 ปีผ่านไปเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล การทำงานของสมองมนุษย์จะเรียกเอาความทรงจำในอดีตกลับขึ้นมาทุกครั้ง เพื่อใช้ตัดสินใจอนาคต

ทำให้อดีตของเราทุกคนกลายมาเป็น “กรงขัง” มาครอบงำอนาคตโดยไม่รู้ตัว พรรคก้าวไกลต้องการทลายกรงขังของอดีตนี้ เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตใหม่ ด้วยความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นผู้ทรงอำนาจ มีศักยภาพ ในการกำหนดอนาคตใหม่ร่วมกัน

การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะเป็นการปะทะกันระหว่างอดีตกับอนาคต กลุ่มคนที่ครองอำนาจอยู่ปัจจุบันเขาพยายามจะให้เราอยู่กับอดีต อดีตอันเป็นวันชื่นคืนสุขของพวกเขา แต่พวกเราจะยืนยันว่าเราจะเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะเป็นวันสำคัญให้เราต้องชี้ชะตา ต้องเลือกว่าเราจะเอาอดีตหรือจะเอาอนาคต

ปิยบุตร แสงกนกกุล ปราศรัยใหญ่

นายปิยบุตร กล่าวถึงคาราวานก้าวไกลว่า แต่ละเส้นทางที่พวกเราผ่าน แต่ละเวทีที่เราได้ไปปราศรัย ได้พบปะกับพี่น้องประชาชน สายตาของพี่น้องประชาชนที่มองมาที่พวกเรามีแต่ความหวัง มีแต่กำลังใจ นี่คือการเมืองแห่งความหวัง หวังว่ายานพาหนะที่ชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะนำพาความฝันความหวังของทุกคนเข้าไปมีอำนาจรัฐและลงมือทำเปลี่ยนแปลงมัน

และด้วยความหวังที่แพร่กระจายไปทั่วเช่นนี้เอง ดุจดั่งปรากฎการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่งทั่วประเทศ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้กลุ่มคนที่ครองอำนาจ กลุ่มคนที่อยู่กับอดีต พยายามหยุดพวกเรา เขาเริ่มเกิดความกลัว เกิดความไม่สบายใจว่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น 

ความกลัวผลักดันให้มนุษย์ออกไปสู้เพื่อทำลายล้างผู้อื่น ส่วนความหวังจะกระตุ้นผลักดันพวกเราให้ออกไปเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม

“เขายังกลัวอีกว่าถ้าวันนี้เขาไม่แลนด์สไลด์ เขาจะไม่ได้กลับมามีอำนาจอีก แต่สำหรับพวกเรา เรามีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน” ปิยบุตรกล่าว

อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขอใช้เวทีนี้สื่อสารไปถึงคนทุกช่วงวัย เยาวชนคนรุ่นใหม่ขอให้ทุกคนจงมีความหวังต่อไป อย่าท้อแท้ อย่าท้อถอย เยาวชนคนหนุ่มสาวจะต้องอยู่ในโลกนี้ไปอีกนาน พวกเรามีความชอบธรรมสูงสุดในการกำหนดอนาคตของประเทศไทยด้วยตัวเอง อดทนด้วยความหวัง ลงมือทำด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ อย่าเพิ่งหนีออกจากประเทศไทยไป

“เราจะมีชีวิตสุขสบายได้อย่างไร ถ้าในรอบตัวเราในสังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงอยู่แบบนี้ คนรุ่นผมที่หวังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เราจะปล่อยให้สังคมที่คนจนจนต่ำเตี้ยติดดิน คนรวยรวยล้นฟ้าจนนับเงินไม่หวาดไม่ไหวอย่างนี้ต่อไปได้อย่างไร เราจะปล่อยให้เยาวชนลูกหลานของเรายังต้องอยู่ในวงจรรัฐประหารต่อไปได้อย่างไร” ปิยบุตรกล่าว

ปิยบุตรกล่าวว่า สำหรับคนรุ่นก่อนที่ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน แล้ววันนี้รู้สึกว่าตนเองประสบความพ่ายแพ้ เป็นไปไม่ได้แล้วในสังคมไทย ตนอยากสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาว่า วันนี้สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว มาร่วมกันทำความฝันเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริง 

“เสียงระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอยู่หน้าประตูบ้านทุกท่านแล้ว จงรีบหยิบฉวยโอกาสเหล่านี้มาลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยกัน ถ้าหากเราทิ้งโอกาสนี้ไป อาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต” ปิยบุตรกล่าว

ปิยบุตรกล่าวว่า ทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนมีคุณค่าในการเลือกตั้งครั้งนี้มาก ไม่ได้ทำให้แค่ ส.ส. บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่อีกบัตรถ้าพี่น้องที่แบ่งใจไปให้ที่อื่นๆ ไม่กาให้ก้าวไกล ก็มีโอกาสที่ ส.ส. เขตจะสอบตกได้ นี่คือความสำคัญของทุกคะแนนเสียง มีคุณค่ามากมายมหาศาลที่จะกำหนดว่าเราจะได้ผู้แทนราษฎรแบบพรรคก้าวไกลได้หรือไม่


ปิยบุตรทิ้งท้ายว่า 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือร่วมใจกันไปกากบาทพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม หยุดอดีต เดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน