วันนี้ (7 เม.ย.66) การรับสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัคร มีพรรคการเมืองมายื่นสมัครอย่างต่อเนื่อง และคึกคัก เนื่องจากหลายพรรคมานั่งรอเพื่อจะจองหมายเลขสุดท้าย หรือลำดับที่ต้องการ และบางส่วนที่ยื่นสมัครแล้วแต่เอกสารไม่ครบก็ต้องถอนกลับไป
สำหรับพรรคที่ยื่นสมัครในช่วงบ่ายประกอบด้วย พรรคพลังไทยรักชาติ ได้หมายเลข 62 โดยส่งเพียงบัญชีรายชื่อ ไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
พรรคประชากรไทย หมายเลข 63 ยื่นบัญชีรายชื่อ 25 คน ซึ่งในบัญชีรายชื่อที่ได้รับความสนใจคือ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา และนางไพมณี พลราชม คดีหวยสกลนคร พร้อมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ประกอบด้วย นายคณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรค ,นางภคมน วงศ์ใหญ่ เลขาธิการพรรค และ นายหรรษธร ณรงค์ รองหัวหน้าพรรค
พรรคเส้นด้าย หมายเลข 64 โดยนายคริส โปตระนันท์ หัวหน้าพรรคไม่ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง ส่งเพียง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 11 คน ไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
พรรคเปลี่ยนอนาคต นำโดยนายอัครนันท์ อริยศรีพงษ์ หัวหน้าพรรค นายภิญโญ รู้ธรรม ผู้อำนวยการ และนายปรีดา ลิ้มนนทกุล มูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ มายื่นสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ได้หมายเลข 65 ส่งผู้สมัครบัญชีรายชื่อจำนวน 22 คน โดยไม่ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
พรรคพลังประชาธิปไตย หมายเลข 66 ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 4 คน โดยนายพูนพิพัฒน์ นิลรังสี หัวหน้าพรรค อยู่ลำดับที่ 1 ไม่มีแคนดิเดตนายรัฐมนตรี
และพรรคสุดท้ายที่มาลงเวลาก่อนปิดรับสมัครเพียง 3 นาที ท่ามกลางเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนที่ลุ้นเนื่องจากใกล้ปิดการรับสมัคร และแสดงความดีใจที่พรรคสามัญยื่นสมัครได้ทันเวลา คือพรรคไทยสมาร์ท ได้หมายเลข 67 โดยส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 27 คน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 คน คือนายเกียรติภูมิ ศิริพันธุ์ หัวหน้าพรรค
ขณะเดียวกันมีพรรคมาส่งบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีเพิ่ม ประกอบด้วย พรรคแนวทางใหม่ ยื่นรายชื่อแดนดิเดตนายรัฐมนตรี คือ นายยุทธนา รักชลธี ผู้สมัคร ส.ส. เขต และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
พรรคพลังปวงชนไทย นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ เลขาธิการพรรค ยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 คน คือ นายฐิติวุฒิ ศรีมานพ
นายสมชาย ยนวิลาศ เลขาธิการพรรคไทยก้าวหน้า ยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 คนคือ นายวัชรพล บุษมงคล หัวหน้าพรรคและพลเอกสิทธิ์ สิทธิมงคล
และพรรคพลังสังคมใหม่ นายอังกูร ไผ่แก้ว เลขาธิการพรรค ยื่นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคือ นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ เพียงคนเดียว