สดศรี ชี้ เศรษฐา ชูแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้​ ไม่เป็นสัญญาว่าจะให้​

06 เม.ย. 2566 | 12:48 น.

“สดศรี"ชี้"เศรษฐา ทวีสิน"ปราศรัยแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้​ ไม่ถือเป็นสัญญาว่าจะให้​ เป็นอำนาจ ส.ส. ที่สามารถออกเป็นกฎหมายได้

วันนี้(6 เม.ย.66) นางสดศรี​ สัตยธรรม​ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง​(อดีต กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย​ กล่าวตอนหนึ่งในการปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย​ เมื่อวันที่​ 5 เม.ย.​2566  ว่า จะเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลให้กับคนไทยที่มีอายุ​ 16 ปีขึ้นไป​จำนวนเงิน​ 10,000 บาท​ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ​ ว่า​ การปราศรัยดังกล่าวไม่เป็นการสัญญาว่าจะให้​ เพราะเป็นเรื่องที่สามารถออกเป็นกฎหมายได้

​โดยอะไรก็ตามที่เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่สามารถทำได้​ ก็นำมาเป็นนโยบายได้​ เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้จะเป็นส.ส.จะเสนอออกกฎหมายผ่านสภา​ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง​ หรือเหนือกว่าอำนาจของผู้ที่จะเป็น ส.ส.

"ท่านนายกฯ ก็เคยพูดว่า​ พรรคนั้นให้เงินบัตรสวัสดิการ​ 700 บาท แต่ของท่านจะให้​ 1,000 บาท​ หรือบางพรรคก็ระบุว่า ผู้สูงอายุจะได้รับเงินตรงนี้มากขึ้น​ ก็จะมีการต่อรองในลักษณะนี้​ หรือบางพรรคเคยหาเสียงว่าจะให้เรียนฟรีจนจบมหาวิทยาลัย​ ซึ่งนโยบายลักษณะก็สามารถทำได้โดยที่จะต้องเสนองบประมาณผ่านเข้าไปในสภา​" 

นางสดศรี​ กล่าวอีกว่า​ ส่วนลักษณะของคำว่าสัญญาว่าจะให้นั้น​ กกต.เคยให้ใบแดงกรณีผู้สมัครส.ส.ท่านหนึ่งเคยพูดว่า ถ้าได้เป็น ส.ส.​ จะออกตั๋วเครื่องบิน​ ให้กับชาวมุสลิมไปนครเมกกะ  ประเทศซาอุดีอาระเบีย​ ฟรี​ ซึ่งเข้าข่าย​สัญญาว่าจะให้เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ​เลือกตั้ง​ลงคะแนนให้กับตัวเอง​ หรือพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด 

“เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกกฎหมายในลักษณะที่ให้ทุกคนมีสิทธิได้รับเงินจำนวนนี้​ ซึ่งจะเอาเงินที่ไหนมาให้​ อะไรก็ตามที่พูดแล้วเป็นไปไม่ได้​ หรือไม่ใช่อำนาจของผู้ที่จะเป็นส.ส.ไปดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้​ โดยที่ไม่สามารถเป็นไปได้​ก็จะถือว่าสัญญาว่าให้เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน​“อดีต กกต.ผู้นี้ระบุ