จับตาสมรภูมิ"สมุทรปราการ" หลังสิ้น"ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม"

31 มี.ค. 2566 | 07:09 น.

"เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" นับเป็นผู้มีบทบาทสำคัญทางการเมืองในสมุทรปราการ สานต่องานจากรุ่นพ่อ "วัฒนา อัศวเหม" กลายเป็นต้นตระกูลการเมือง "บ้านใหญ่อัศวเหม" จนถึงวันนี้

การสูญเสีย"เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม"จากอาการฮีทสโตก ขณะซ้อมแข่งรถยนต์ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (31 มี.ค.66)ทางครอบครัวและญาติ จะนำร่างกลับมาที่บ้านเกิดสมุทรปราการ เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป

เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เคยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ  เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ

ต่อมาถูกสั่งปลดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เมื่อมีการเลือกตั้งอบจ.ใหม่ ปรากฎว่า "นันทิดา แก้วบัวสาย" อดีตภรรยา ได้รับเลือกตั้ง 

ขณะที่สนามการเมืองใหญ่ เป็นที่ทราบดีว่า การเมืองสมุทรปรากการภายใต้บารมีของบ้านใหญ่ปากน้ำ ไม่ธรรมดา 

จับตาสมรภูมิ"สมุทรปราการ" หลังสิ้น"ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม"

ย้อนไปยังช่วงกลางปี 2565 กลุ่ม 6 ส.ส.สมุทรปราการ เด็กในคาถาบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ได้สร้างปรากฏการณ์ โหวตสวนมติพลังประชารัฐ ไม่ไว้วางใจ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เสนาบดีกระทรวงคลองหลอด ในศึกภิปรายไม่ไว้วางใจ จนทำให้ “บิ๊กป๊อก” มีคะแนนต่ำสุดในเหล่าบรรดารัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย

ต่อมาวันที่ 25 ก.ค.2565 “ลุงป้อม”ต้องลงพื้นที่ตรวจราชการสมุทรปราการ โดยมีบรรดา ส.ส.ปากน้ำ ให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น

และเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา  บ้านใหญ่อัศวเหม ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ แล้ว ครบทั้ง 8 เขต ที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 

ประกอบด้วย นายอัครวัฒน์ อัศวเหม เขต 1,นายยงยุทธ สุวรรณบุตร เขต 2 ,น.ส.ภริม พูลเจริญ เขต 3, นายวรพร อัศวเหม เขต 4, นายจาตุรนต์ นกขมิ้น เขต 5, นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เขต 6, นายต่อศักดิ์ อัศวเหม เขต 7 และนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก เขต 8 

หากย้อนไปดูผลการเลือกตั้งปี 62 “พลังประชารัฐ” พรรคน้องใหม่ขณะนั้น สามารถแย่งเก้าอี้จากเพื่อไทย โดยคว้ามาได้ 6 เขต มีพรรคก้าวไกล หรือ “อนาคตใหม่” แทรกเข้ามา 1 ที่นั่ง ทำให้พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์ในพื้นที่สมุทรปราการ
 

จับตาสมรภูมิ"สมุทรปราการ" หลังสิ้น"ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม"

การเลือกตั้ง 66 “สมุทรปราการ” มีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เขต รวมเป็น 8 เขต โดย “พลังประชารัฐ” เตรียมส่งกลุ่มส.ส.จากบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ลงชนครบทุกพื้นที่ แต่ที่น่าจับตา ชนิดห้ามกระพริบ คือ เขต 7 ซึ่งแชมป์เป็นของ “ไพลิน เทียนสุวรรณ” จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ปัจจุบันเปลี่ยนโปรย้ายข่าย ไปเข้าร่วม “พรรคลุงตู่” ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

สนามเลือกตั้ง เขต 7 เป็นการต่อสู้กันระหว่าง 2 ตระกูลการเมืองใหญ่ คือ “อัศวเหม” และ “เทียนสุวรรณ” โดยการเลือกตั้งปี 62 พื้นที่นี้อยู่ระหว่างเลือกว่าจะเอาใคร เพราะบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ต้องการจะส่งลูกพี่ลูกน้อง คือ “ต่อศักดิ์ อัศวเหม” เข้ายึดพื้นที่ 

แต่ “เสธ.อ้น” พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา น้องรัก"ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 19 มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง ต้องการดันบ้านใหญ่ “เทียนสุวรรณ” ลงแข่งขัน เพราะถือเป็นหนึ่งตระกูลการเมืองท้องถิ่น และยังมีธุรกิจในพื้นที่ 

ต่อมา “เสธ.อ้น” เคลียร์ใจกับบ้าน “อัศวเหม” และจบลงด้วยการส่ง “ไพลิน เทียนสุวรรณ” ลูกสาว “สมัคร เทียนสุวรรณ” อดีต สจ. สมุทรปราการ เมื่อ “ส.ส.ริน” ย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ ทางพลังประชารัฐ จึงส่ง “ต่อศักดิ์ อัศวเหม” ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค เข้าลงแข่งขันเขตนี้ 

หลังจากนี้ ต้องจับตาการขับเคลื่อนของ บ้านใหญ่ม้าทองคำ หลังสูญเสีย "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ "ผู้มีบทบาทสำคัญ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนการเลือกตั้ง 2566  ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้