“จากประสบการณ์ที่ทางบ้านขายอะไหล่สินค้าเกษตร ทำให้ได้รู้ว่า การที่เกษตรกร มีรายได้น้อย ทำให้ไม่สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือการเกษตร ที่มีคุณภาพดี และคุ้มค่าได้ เพราะไม่มีเงินซื้อ เกษตรกรในต่างประเทศ มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ มีเงินมีทอง มีบ้านมีรถ ผมอยากให้เกษตรกรไทย ลืมตาอ้าปากได้สักที”
สิ่งที่ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทยศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ บอกกับฐานเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงคนที่เห็นปัญหาจากการอ่านข่าว หรือการลงพื้นที่ แต่นี่คือสิ่งที่เขาเห็นมาตลอดช่วงชีวิต
ศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ มีดีกรีปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และปริญญาตรี นิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขาสร้างสรรค์งานโฆษณา จากสถาบันเดียวกัน
สาขาวิชาที่เขาเลือกเรียนดูจะไปคนละทิศละทาง กับความสนใจงานการเมืองมาตั้งอายุ 11ขวบ เมื่อครั้งลงพื้นที่ ช่วยคุณลุงหาเสียง ในสนาม ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ ในหลากหลายสังกัด ทั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ พลังธรรม พลังไทย(ของคุณหญิงสุดารัตน์) จนถึงไทยรักไทย
สาเหตุก็เพราะ ชอบลงมือทำ มากกว่าวิชาการในตำรา เมื่อเรียนจบก็ได้คลุกคลีอยู่กับงานด้านฝ่ายขายในบริษัทเอกชนมาโดยตลอด ก่อนจะมาเปิดบริษัทนำเข้าสุราจากต่างประเทศของตัวเอง ควบคู่กับการเรียนต่อปริญญาโท แต่ต่อมาก็ต้องขายหุ้นทั้งหมดไป เพราะคุณพ่อล้มป่วย และเขา ต้องกลับมาดูแลกิจการที่บ้าน นั่นก็คือธุรกิจอะไหล่เครื่องยนต์การเกษตร
นี่จึงเป็นสาเหตุ ที่นักธุรกิจวัยหนุ่มคนนี้ ได้รู้ซึ้งถึงปัญหาของเกษตรกร
ศรัณยู มีความต้องการที่จะพลิกชีวิตเกษตรกรไทยให้ได้ ด้วยเป้าหมายสูงสุดทางการเมือง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร”
“เกษตรกรต้องมีรายได้ที่ดีกว่านี้ เพราะประเทศไทยสามารถผลิตวัตถุดิบทางอาหาร รองรับความต้องการของโลกได้ มีความสามารถที่จะเป็นครัวของโลกได้ แต่ภาครัฐต้องเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตร และถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลพูดถึง แต่ขาดการลงทุนในงบเพื่อการวิจัยและพัฒนา และหน่วยงานรัฐยังต้องช่วยส่งเสริมตลาด และดูตลาดให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะการส่งออกด้วย”
ถึงแม้ ศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ จะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ สังกัดพรรคใหม่อย่างไทยสร้างไทย แต่เขายืนยันในการตัดสินใจเลือกพรรคนี้ เพราะเชื่อมั่นทั้งตัวหัวหน้าพรรค และแนวนโยบายของพรรค รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ เขาต้องการเปลี่ยนวัฒนธรรมการเมืองไทย ที่เหมือนเล่นปาหี่ มีการต่อรองอำนาจผลประโยชน์ จนทำให้ประชาชนหมดทางเลือก จนต้องมีทัศนคติที่ว่า แม้จะโกงแต่ก็ยังดีที่ทำประโยชน์ให้ประเทศ
“แม้จะโกงแต่ก็ยังดีที่ทำประโยชน์ให้ประเทศ ข้อนี้ผมรับไม่ได้ เพราะนักการเมืองต้องเข้ามาทำประโยชน์ให้ประเทศโดยไม่โกง” ศรัณยูกล่าว
นักการเมืองรุ่นใหม่วันนี้ ก็จะเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าในวันข้างหน้า การให้โอกาสของผู้ใหญ่ ก็เหมือนให้ได้เข้ามาฝึกงานการเมือง ในวันข้างหน้าก็จะเป็นนักการการเมืองที่แข็งแกร่ง มีความคิดอ่านเพื่อประชาชน และต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นประเทศจะไปต่อไม่ได้ ประเทศไทยต้องไม่มีการรัฐประหาร และต้องไม่มีการทุจริตด้วย
หนึ่งในนโยบายไทยสร้างไทย ที่ศรัณยู อยากให้พรรคได้มีโอกาสเข้าไปขับเคลื่อน นั่นก็คือ นโยบายบำนาญ 3,000 บาท ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ดูแลสุขภาพ ไม่เป็นภาระลูกหลาน เพราะในรายละเอียด ผู้สูงอายุที่รับเงิน ต้องดูแลสุขภาพให้ได้ตามเกณฑ์ ซึ่งหากสุขภาพดีขึ้น ประเทศไทยก็ได้รับประโยชน์ ช่วยลดงบประมาณการรักษาของภาครัฐลง มีคนป่วยน้อยลง เนื่องจากงบประมาณที่ต้องใช้ในการรักษาผู้สูงอายุ อยู่ที่ประมาณกว่า 3,000 บาทต่อคน ทั้งยังเกิดการจับจ่ายใช้สอย จากเงินที่ได้รับทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนทั้งประเทศ
ศรัณยู จากไทยสร้างไทย ทิ้งทายกับฐานเศรษฐกิจ ถึงเส้นทางชีวิตการเมืองว่า จะทำงานการเมืองต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อ เพราะการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี หรือไม่สร้างสรรค์ ไม่สามารถทำให้เขาหวาดหวั่น หรือถอดใจไปจากเป้าหมายทางการเมืองได้อย่างแน่นอน