vivo เปิดตัว Funtouch OS 15 ระบบปฏิบัติการที่ทำงานบน Android 15 ได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ พร้อมตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย ฟีเจอร์อันครบครัน และนวัตกรรม AI อัจฉริยะ สำหรับทั้งการแต่งภาพ การเล่นเกม และเชื่อมต่อโลกดิจิทัลอย่างไร้ขอบเขต เรียกได้ว่านี่คือการก้าวข้ามขีดจำกัดสำคัญในการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจะไม่เป็นเพียงเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ธรรมดา แต่ยังเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ทำให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานง่ายขึ้นอีกด้วย
vivo พัฒนาเทคโนโลยีโดยอ้างอิงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ใช้งานจริงอยู่เสมอ ระบบ Funtouch OS 15 จึงผ่านการพัฒนาและทดสอบบนสถานการณ์การใช้งานมากว่า 700 รูปแบบ เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้ใช้อย่างลึกซึ้งก่อนเปิดให้แฟน ๆ ทั่วโลกได้สัมผัสอย่างเป็นทางการ โดยเป้าหมายการพัฒนาไม่ใช่เพียงเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ Android 15 ได้อย่างราบรื่นไร้ที่ติเท่านั้น แต่ยังเป็นการบูสต์ความสะดวกสบาย ศักยภาพการประมวลผล และความยืดหยุ่นด้านการปรับแต่งของอุปกรณ์ไปในตัว สะท้อนถึงความใส่ใจของ vivo ต่อฟีดแบคจากเหล่าแฟน ๆ ในยุคปัจจุบันที่ต้องการแมตช์สมาร์ตโฟนเข้ากับไลฟ์สไตล์และดีไซน์รูปแบบการใช้งานได้เองอย่างอิสระ
Funtouch OS 15 เวอร์ชันล่าสุดถูกออกแบบมาเพื่อเปิดประตูให้ทุกคนได้สัมผัสยุคใหม่ของเทคโนโลยีจาก vivo ซึ่งพัฒนาจากความต้องการของผู้ใช้งานโดยตรง พร้อมตอบโจทย์การยกระดับประสบการณ์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งอินเตอร์เฟซให้สวยตรงใจและง่ายต่อการใช้งาน หรือการเชื่อมต่อที่สะดวกสบายไร้รอยต่อ ผ่าน 4 ฟีเจอร์อัปเกรดใหม่:
1) กลไกแอนิเมชันความเร็วสูง (Origin Animation) อัปเกรดความเร็วในการเปิด-ปิดแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น 20% และสร้างสีสันใหม่ ๆ ให้กับดิสเพลย์ด้วยเอฟเฟกต์ Aqua Dynamic ที่แสดงมูฟเมนต์แบบหยดน้ำทุกครั้งที่สัมผัสหน้าจอ
2) ดีไซน์อัปเกรดใหม่กว่า 3,800 รายการ อัปเกรดอินเตอร์เฟซทันสมัยและเปิดให้สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ตั้งแต่ออกแบบพื้นหลังสายเรียกเข้า ปรับสไตล์ไอคอน เลือกแอนิเมชันปลดล็อกหน้าจอ หรือแม้แต่ซ่อนแอปที่ไม่ต้องการให้ใครเห็น
3) ฟีเจอร์การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ เปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้กลายเป็นออฟฟิศแบบพกพาด้วยฟีเจอร์การเชื่อมต่อ PC เพื่อซิงก์การแจ้งเตือน แชร์ไฟล์ และการใช้งานผ่านหน้าจอพร้อมกันได้สูงสุด 5 แอปพลิเคชัน
4) ระบบป้องกันการแชร์หน้าจอ ไร้กังวลเรื่องข้อมูลสำคัญรั่วไหลด้วยฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัวที่จะแสดงเพียงชื่อและไอคอนแอปพลิเคชันในกรณีที่มีการแจ้งเตือนขณะใช้งาน
Funtouch OS 15 ยังมาพร้อมอีก 3 ฟีเจอร์เด็ดที่จะช่วยเสริมแกร่งประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน vivo ทุกคนของในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานและความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ
1) เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยความจำ (Memory Enhancement) คำนวณข้อมูลจากการใช้งานจริง เพื่อจัดการและบีบอัดหน่วยความจำที่ซ้ำซ้อนได้เร็วขึ้น 40% (RAM Memory Compression Algorithm) ทำให้สามารถเปิดหลายแอปพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล
2) ระบบ AI Image Lab ตัวช่วยปรับแต่งภาพถ่ายและเอกสารให้มีสีสันสดใสและคมชัดผ่าน AI ประมวลผลอัตโนมัติ ซึ่งทำงานควบคู่กับ AI Erase ที่เข้ามาช่วยลบวัตถุ คน สิ่งของ หรือส่วนที่ไม่ต้องการได้แบบอัจฉริยะ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตั้งค่าหรือปรับแต่งด้วยตนเองให้ยุ่งยาก
3) Ultra Game Mode อัปเกรดใหม่ เอาใจเหล่าเกมเมอร์ด้วยการพลิกโฉมอินเทอร์เฟซให้โดดเด่นทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์ลัดเพื่อปรับแต่งการตั้งค่าแบบรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องหยุดเกม และฟังก์ชันหน้าต่างเล็กสำหรับสาย multi-tasking เพื่อการใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้ในคลิกเดียว
ปีนี้ vivo ตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านการอัปเกรดระบบปฏิบัติการสู่ Funtouch OS 15 ซึ่งเต็มไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ออกแบบเพื่อตอบสนองทุกความต้องการในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน ทำงาน หรือติดต่อสื่อสารกับผู้คน สมาร์ทโฟนจาก vivo และ iQOO พร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่คอยอำนวยสะดวกให้กับทุกสเตปในชีวิตประจำวัน และนำทางผู้ใช้ก้าวเข้าสู่ประสบการณ์ที่เหนือกว่าในอนาคต โดยเริ่มเปิดให้อัปเกรดแล้วบนเรือธง X100 Series 5G และ iQOO 12 5G และจะทยอยปล่อยให้สมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมอื่น ๆ จากทั้ง V Series และ Y Series ได้สัมผัสยุคใหม่ของความลื่นไหลไปด้วยกันภายในปี 2568 ที่จะถึงนี้ รวมถึงรองรับบนไลน์อัปสมาร์ทโฟน vivo-iQOO ที่เตรียมจะเปิดตัวในอนาคต