การพุ่งทะยานขึ้น Nvidia ในตลาดหุ้นตอกย้ำขอบเขตว่าคุณภาพและความพร้อมใช้งานของชิปจะกำหนดผู้ชนะในยุค Generative AI ซึ่งคือระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาให้สามารสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ที่คล้ายกับที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เช่น ChatGPT หรือแชทบอท AI อัจฉริยะที่สนทนาโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่มีอีกแง่มุมของการวัดโอกาสของประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะ "จีน" ซึ่งกำลังเตรียมตัวเพื่อผลิตชิปของตนเองหรือได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจาก Nvidia ก็ยังไม่มีคู่แข่งด้าน AI ที่โดดเด่น กว่า OpenAI ในหมู่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพของจีนหลายสิบราย
จากการรายงานของ สำนักข่าว CNBC ที่ชี้ว่า จีนกำลังพัฒนาด้าน AI เพื่อต้องการจะนำหน้า OpenAI ในตลาด AI ของสหรัฐฯ ที่แพร่หลายมากขึ้น ซึ่งมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Alphabet Google Amazon รวมถึง Anthropic ซึ่งสัปดาห์นี้ได้รับเงินสดจำนวน 2.7 พันล้านดอลลาร์จาก Amazon
แต่ช่องว่างระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยีนั้นกว้างมาก บริษัทชั้นนำของจีนกำลังเปรียบเทียบ ChatGPT บ่งชี้ว่าจีนยังตามหลังอยู่มาก ขณะเดียวกันความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในรายงานของ CNBC ระบุว่า มีบริษัทไม่มากนักที่รองรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของตนเองได้ ซึ่งต้องใช้เงินทุนมาก Silicon Valley นำหน้าเกมอย่างแน่นอน
สหรัฐฯ ตลาดการลงทุน AI ที่ใหญ่ที่สุด
จากข้อมูลพบว่า สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด เมื่อปีที่แล้วการระดมทุนของ Gen AI พุ่งขึ้น คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของเงินลงทุน 42.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทั่วโลกในบริษัทพัฒนา AI ตามข้อมูลของ CB Insights ในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีการผลักดันการลงทุน AI เป็น 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ นำโดย OpenAI, Anthropic และ Inflection โดยเปรียบเทียบกับมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ กับ 68 ข้อตกลงในจีน ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 5.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 ใน 377 ข้อตกลง การลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดในการร่วมลงทุนของสหรัฐฯ ในจีน
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า แม้จีนจะตามหลัง OpenAI และ Gemini ของ Google แต่ก็กำลังปิดช่องว่างโดยใช้โอเพ่นซอร์สของ Meta ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ Llama 1
จีนมีความสามารถด้านเทคโนโลยีที่จะสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน AI
การศึกษาใหม่โดยกลุ่มนักคิดอย่าง Marco Polo ซึ่งดำเนินการโดย Paulson Institute แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ เป็นที่ตั้งของสถาบัน AI ชั้นนำถึง 60% และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับผู้มีความสามารถด้าน AI ชั้นยอด 57% ของทั้งหมด เมื่อเทียบกับกับจีน 12%
แต่การวิจัยพบว่า จีนเป็นผู้นำสหรัฐฯ ด้วยมาตรการบางอย่าง รวมถึงการแซงหน้าสหรัฐฯ ในการผลิตนักวิจัย AI ชั้นนำ โดยพิจารณาจากระดับปริญญาตรี จีนอยู่ที่ 47% และสหรัฐฯ ตามหลังที่ 18% นอกจากนี้ ในบรรดานักวิจัย AI ชั้นนำที่ทำงานในสถาบันของสหรัฐอฯ 38% มีจีนเป็นประเทศต้นทาง เทียบกับ 37% ของสหรัฐอเมริกา
การเข้าสู่ตลาด Gen AI ของจีนยังเข้าถึงการนำไปใช้ในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว
Ernie Bot เป็นคู่แข่ง ChatGPT ของ Baidu เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2565 มีผู้ใช้ถึง 100 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ Samsung กำลังวางแผนที่จะรวม Ernie AI ของ Baidu กับสมาร์ทโฟน Galaxy S ใหม่ ในขณะที่ Apple กำลังเจรจากับ Baidu เกี่ยวกับการจัดหา iPhone 16 ด้วยเทคโนโลยี gen AI ของบริษัทจีน
บริษัทจีนหลายแห่งกำลังก้าวไปข้างหน้า โดยได้รับทุนจากผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเทคโนโลยีของตนเอง บริษัทคลาวด์ขนาดใหญ่ เช่น Baidu และ Alibaba ผู้เล่นโซเชียลมีเดีย ByteDance และ Tencent และบริษัทเทคโนโลยี SenseTime, iFlyTek, Megvii และ Horizon Robotics รวมถึงสถาบันวิจัย ต่างก็ให้ความช่วยเหลือในความพยายามนี้
Moonshot AI ซึ่งได้รับทุนจากอาลีบาบายักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนและบริษัท VC Hongshan (ชื่อเดิม Sequoia China) กำลังสร้างโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่รองรับเนื้อหาขนาดยาวได้ ในขณะเดียวกัน อดีตประธาน Google China Kai-Fu Lee ได้พัฒนาโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส 01.AI ซึ่งได้รับทุนจาก Alibaba และบริษัท Sinovation Ventures
จีนเร่งพัฒนาชิปขั้นสูงภายในประเทศ เเต่การพัฒนา AI ของจีนถูกจำกัด
จากข้อจำกัดของสหรัฐฯ ในการส่งออกชิป AI ระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นตลาดที่ควบคุมโดย Nvidia เป็นส่วนหนึ่งของสมรภูมิใหม่เพื่อความเหนือกว่าทางเทคโนโลยีระหว่าง สหรัฐฯ และจีน
ข้อมูลจากผู็เชี่ยวชาญในรายงานของ CNBC ระบุว่า แม้จะมีความพยายามในการพัฒนาโซลูชันภายในประเทศ แต่นักพัฒนา AI ของจีนยังคงพึ่งพาฮาร์ดแวร์จากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจากบริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน
จีนา เอ็ม. เรมอนโด Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า เป้าหมายของสหรัฐฯ ในการควบคุมการส่งออกชิป AI คือ การป้องกันไม่ให้จีนได้รับหรือผลิตชิปขั้นสูง เนื่องจากจีนมุ่งเน้นไปที่ความสามารถภายในประเทศ บริษัทจีน SMIC หรือ Huawei อาจเป็นทางเลือกแทน Nvidia แต่อนาคตก็ไม่แน่นอน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Huawei ได้พัฒนาชุดชิป AI เพื่อเป็นคู่แข่งกับ Nvidia
การวิจัยของ Boston Consulting Group ชี้ให้เห็นว่าอาจต้องใช้เวลาก่อนที่ตลาด Gen AI จะก้าวไปนอกเทคโนโลยี โดย 60% ของผู้บริหารที่ตอบแบบสำรวจ 1,400 คน กำลังรอดูการพัฒนากฎระเบียบของ Gen AI ในขณะที่มีเพียง 6 % ของบริษัทเท่านั้นที่ได้ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับเครื่องมือ Gen AI
ปัญหาด้าน AI และเทคโนโลยีเป็นประเด็นสำคัญในการเป็นผู้นำของจีน
จีน เปิดตัวระบบป้องกัน AI ในปี 2566 หลังจากความก้าวหน้าของ ChatGPT จากนั้นจึงปรับเปลี่ยนมาตรการบางอย่าง
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาต่างๆ ที่นักพัฒนาชาวจีนจำนวนมากใช้สามารถส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทั่วโลก และนำไปสู่การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก ในขณะที่ AI ก้าวหน้า แต่ก็นำไปสู่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของโมเดล ตลอดจนการจัดการอคติและศักยภาพ การใช้ AI ในทางที่ผิด
ข้อกังวลด้านจริยธรรมและสังคมเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของ Gen AI ในประเทศจีนและภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงสหรัฐฯด้วย ดังที่เห็นในการต่อสู้เพื่อควบคุม OpenAI ภายในประเทศจีน มีปัจจัยที่อาจชะลอการเร่งความเร็วของ AI คือ การควบคุมแอปพลิเคชัน Gen AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อผลประโยชน์ของรัฐ
ที่มา
U.S.-China tech battle entering its ‘primetime’ — and generative A.I. could be the next frontier