ตลาดพีซีโลก ส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังดำดิ่ง 8 ไตรมาสติด

24 ม.ค. 2567 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2567 | 11:51 น.

การ์ทเนอร์ อิงค์ เผยยอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีทั่วโลกไตรมาส 4 ปี66 มียอดรวม 63.3 ล้านเครื่อง เติบโต 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 65 นับเป็นครั้งแรกที่ยอดขายพีซีรายไตรมาสกลับมาเติบโต หลังจากลดลงต่อเนื่องตลอด8 ไตรมาสที่ผ่านมา

มิคาโกะ คิตากาวะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ตลาดพีซีมาถึงจุดลดลงต่ำสุดแล้ว หลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาส 4 ปี 2566 สินค้าคงคลังได้รับการปรับให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเป็นเวลาสองปี ซึ่งการเติบโตนี้ยังแสดงให้เห็นว่าอุปสงค์และอุปทานกลับมาสมดุลในที่สุด อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้อีกเนื่องจากการขึ้นราคาของส่วนประกอบตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2567 รวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์และภาวะเศรษฐกิจ”

ตลาดพีซีโลก ส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังดำดิ่ง 8 ไตรมาสติด

“ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ผู้ขายพีซีชั้นนำทั้ง 6 รายยังคงรักษาตำแหน่งไว้โดยไม่มีส่วนแบ่งกำไรหรือขาดทุนที่โดดเด่น ซึ่งจากข้อมูลนี้การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าตลาดพีซีจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2567”

ผู้ขายพีซีหกอันดับแรกในไตรมาส 4 ปี 2566 ยังไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในด้านผลงาน โดย Lenovo, HP, Apple และ Acer มีการเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ Dell และ ASUS มีอัตราการเติบโตลดลง

ตารางที่ 1 การคาดการณ์ยอดขายต่อยูนิตเบื้องต้นของผู้ขายพีซีทั่วโลก ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 (หน่วยพันยูนิต) 

Company

4Q23 Shipments

4Q23 Market Share (%)

4Q22 Shipments

4Q22 Market Share (%)

4Q23-4Q22 Growth (%)

Lenovo

16,213

25.6

15,713

24.9

3.2

HP Inc.

13,954

22.0

13,220

20.9

5.6

Dell

9,983

15.8

10,884

17.2

-8.3

Apple

6,349

10.0

5,925

9.4

7.2

ASUS

4,405

7.0

4,864

7.7

-9.4

Acer

3,987

6.3

3,589

5.7

11.1

Others

8,479

13.4

8,982

14.2

-5.6

Total

63,371

100.0

63,179

100.0

0.3

เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว Lenovo มีการเติบโตในการจัดส่งพีซีทั่วโลก นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 โดยตลาดพีซีในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (หรือ EMEA) และอเมริกาเติบโตในระดับเลขสองหลัก ซึ่งชดเชยตลาดเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นที่อ่อนแอ ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในจีนส่งผลกระทบต่อความต้องการพีซีโดยทั่วไป และยังกระทบรุนแรงต่อ Lenovo เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด

ตลาดพีซีโลก ส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังดำดิ่ง 8 ไตรมาสติด

ดังนั้นการเติบโตของแล็ปท็อปในตลาด EMEA และลาตินอเมริกานั้นแข็งแกร่ง สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคมาก ผู้ขายรายอื่นมีผลลัพธ์ที่หลากหลาย อาทิ HP เติบโตเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี และมีการเติบโตตามลำดับในการจัดส่งพีซีทั่วโลก ขณะที่ Dell มีการเติบโตลดลงเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี

ภาพรวมในภูมิภาค

ตลาดพีซีในสหรัฐฯ เติบโตเป็นครั้งแรกแบบรายปี นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 โดยเพิ่มขึ้น 1.8% ในไตรมาส 4 ปี 2566 ซึ่งการเติบโตของแล็ปท็อปช่วยชดเชยการเติบโตที่ลดลงของเดสก์ท็อป

“การเติบโตของพีซีในสหรัฐฯ สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เนื่องจากตลาดมีเสถียรภาพในระหว่างไตรมาส เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งช่วยให้การใช้จ่ายของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางดีขึ้น ในขณะที่กลุ่มธุรกิจก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทขนาดใหญ่ยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย เลื่อนการเปลี่ยนคอมพ์ตั้งโต๊ะไปเป็นปีนี้” คิตากาวะกล่าวเพิ่ม

ตารางที่ 2 การคาดการณ์ยอดขายต่อยูนิตเบื้องต้นของผู้ขายพีซีในสหรัฐฯ ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 (หน่วยพันยูนิต) 

Company

4Q23 Shipments

4Q23 Market Share (%)

4Q22 Shipments

4Q22 Market Share (%)

4Q23-4Q22 Growth (%)

HP Inc.

4,665

27.7

4,582

27.7

1.8

Dell

3,805

22.6

4,005

24.2

-5.0

Apple

2,716

16.1

2,372

14.3

14.5

Lenovo

2,650

15.7

2,397

14.5

10.6

Acer

826

4.9

729

4.4

13.2

ASUS

733

4.4

954

5.8

-23.1

Others

1,435

8.5

1,630

9.9

-12.0

Total

16,831

100.0

16,540

100.0

1.8

HP ยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดพีซีในสหรัฐฯ โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่ 27.7% ตามมาด้วย Dell ที่ 24.2%

รายปี โดยเป็นผู้นำการเติบโตทั่วโลก แม้ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังลดลงในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 โดยได้รับแรงกดดันจากยอดที่ตกต่ำในจีน ตลาดพีซีใน EMEA มีการเติบโตสูงสุดที่ 8.7% ซึ่งถือเป็นการกลับมาเติบโตครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 เมื่อเทียบเป็นรายปี

“ตลาด EMEA สะท้อนภาพตลาดโดยรวม ในที่สุดระดับของสินค้าคงคลังก็อยู่ภายใต้การควบคุม อย่างไรก็ตาม อาจเปลี่ยนแปลงได้หากความต้องการลดลง และผู้จัดจำหน่ายจะต้องระมัดระวังในการเพิ่มสต็อกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น นั่นหมายความว่าการกักเก็บสินค้าคงคลังในขณะนี้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นในช่องทางจัดจำหน่าย” คิตากาวะ กล่าว

ตลาดเอเชียแปซิฟิกลดลง 8% นับเป็นการลดลงติดต่อกัน 7 ไตรมาส โดยแล็ปท็อปและเดสก์ท็อปเป็นอุปกรณ์ไอทีสองชนิดที่เติบโตลดลงในภูมิภาคนี้ ซึ่งเดสก์ท็อปได้รับผลกระทบมากกว่าโดยลดลงอย่างมีนัยสำคัญในประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยรวม ปรับตัวลดลงระดับเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดหลักในเอเชียแปซิฟิกมีการลดลงเล็กน้อย ส่วนตลาดเกิดใหม่เติบโตขึ้นเพียงเลขหลักเดียว

ภาพรวมประจำปี: ตลาดพีซีล่มสลายหลังการแพร่ระบาดโควิด

ปี 2566 ถือเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของพีซี โดยภาพรวมลดลง 14.8% และนับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ลดลงในระดับเลขสองหลัก ซึ่งยอดขายพีซีทั่วโลกมีทั้งหมด 241.8 ล้านเครื่อง ลดลงจาก 284 ล้านเครื่องในปี 2565

ตารางที่ 3 การคาดการณ์ยอดขายต่อยูนิตเบื้องต้นของผู้ขายพีซีทั่วโลก ในปี 2566 (หน่วยพันยูนิต) 

Company

2023 Shipments

2023 Market Share (%)

2022 Shipments

2022 Market Share (%)

2023-2022 Growth (%)

Lenovo

59,725

24.7

69,047

24.3

-13.5

HP Inc.

52,896

21.9

55,366

19.5

-4.5

Dell

40,238

16.6

50,008

17.6

-19.5

Apple

21,877

9.0

26,825

9.4

-18.4

Asus

17,061

7.1

20,651

7.3

-17.4

Acer

15,887

6.6

18,708

6.6

-15.1

Others

34,206

14.1

43,448

15.3

-21.3

Total

241,891

100.0

284,052

100.0

-14.8

“ตลาดพีซีมีช่วงการปรับตัวที่สำคัญในช่วงสองปีที่ผ่านมาล่าสุด หลังจากเติบโตอย่างก้าวกระโดดระหว่างปี 2563-2564” คิตากาวะ กล่าวสรุป