“TKC” เดินหน้าพัฒนาธุรกิจจ่อร่วมทุน EC-Council จากมาเลเซีย
“TKC” เดินหน้าพัฒนาธุรกิจจ่อรวมทุน EC-Council จากประเทศมาเลยเซีย จัดตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้รวมจาก 3-5% เป็นตัวเลข 2 หลักนับจากนี้ถึง 5 ปีข้างหน้า
วันที่ 6 กรกฏาคม 2566 นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU กับ EC-Council ยักษ์ใหญ่ด้าน Cyber Security จากประเทศมาเลเซีย ที่มีประสบการณ์ด้านการดูแลความปลอดภัยเครือข่ายให้ FBI สหรัฐ เพนตากอน และ ดีลอยท์ เป็นต้น เพื่อร่วมมือทำธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายด้วยกัน
ขั้นตอนหลังจากเซ็น MOU เรียบร้อยแล้ว TKC กับ EC-Council จะจัดตั้งกิจการร่วมค้า หรือ JV (Joint Venture) โดย TKC จะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ EC-Council จะถือหุ้น 49% ใช้เงินลงทุนในเบื้องต้นประมาณ 4-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่งคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Security Operation Center : SOC) เพื่อให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายแก่ลูกค้าและองค์กรทั่วไป รวมทั้งเปิดคอร์สอบรม จัดสอบ และให้ใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานสากลระดับโลก ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย คือ บริษัท ไอบีเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด
สำหรับการเซ็น MOU กับ EC-Council ในครั้งนี้ จะสนับสนุนให้ TKC ก้าวสู่เป้าหมายการเพิ่มรายได้ด้านบริการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย หรือ Cyber Security จากสัดส่วนเดิม 3-4% ของรายได้รวมต่อปี สู่ระดับการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักนับจากนี้ต่อเนื่องไปอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งกระบวนการ JV ในครั้งนี้จะเสร็จเรียบร้อยและสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่ปลายปี 2566 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน TKC นับว่าบรรลุวัตถุประสงค์การขยาย 8 ธุรกิจใหม่ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมดแล้ว คือ หลังการนำบริษัทฯ เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น หรือ IPO จะขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้ใหม่ในธุรกิจ 1. Cyber Security, 2. Smart Airport, 3. Smart Logistics, 4. Smart Farming, 5. Smart Hospital, 6. Autonomous, 7. Smart Platform และ 8. Smart Drone
สำหรับในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากปีก่อนหรือคิดเป็นรายได้รวมจำนวน 3,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจไซเบอร์ซิเคียวริตี้ตั้งเป้ารายได้รวม 3-5%.