"กรวัฒน์ เจียรวนนท์" แนะผู้ประกอบการซอฟท์แวร์ ต้องสร้างธุรกิจสู่รีจินัล

นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท Amity จำกัด เทคสตาร์ทอัพไทยระดับโลก เปิดเผยว่า ในอุตสาหกรรมธุรกิจซอฟท์แวร์แอนด์เซอร์วิส ซึ่ง Amity ทำอยู่ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง และมาร์จิ้นดี อยู่ที่ 75-80% โดยดูได้จากรายใหญ่ของโลก อย่างไมโครซอฟท์ หรือ อะโดบี 

สำหรับ Amity เป็นผู้ให้บริการซอฟท์แวร์แอนด์เซอร์วิส ที่ค่อนข้างมีความเฉพาะเจาะจง (specific) เป็นคอนสตรัคเตอร์ หรือผู้รับเหมาก่อสร้างในธุรกิจซอฟท์แวร์ ซึ่งแตกต่างจากผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ทัั่วไป ที่ยุคก่อนจะเน้นการพัฒนาซอฟท์แวร์ และขายให้ธุรกิจ subscribe แต่สิ่งที่ Amity ทำคือ การปลั๊กอินซอฟท์แวร์ หรือฟีเจอร์ที่ลูกค้าสนใจ เข้ากับแอปพลิเคชั่นหรือเวปไซด์ของลูกค้าตามที่เขาต้องการ 

"เราเป็น Constructor Provider สำหรับแอปที่อยากจะมีฟีเจอร์ กับฟังก์ชั่นที่เป็นโซเชี่ยลฟีเจอร์ หรือโซเชี่ยลฟังก์ชั่น เช่น ถ้าเราเจอฟีเจอร์ที่ดี เราอยากเอาเข้ามาอยู่ในแอปของเรา หรือในเวปไซด์ของเรา เราก็ไปซื้อ component มาเสียบเข้าไป แล้วก็ดึงฟีเจอร์นี้เข้ามาในแอป โดยไม่ต้องลงทุนเอง ไม่ต้องสร้างเอง" 

นายกรวัฒน์ กล่าวว่า Amity เป็นโพไวเดอร์ที่ค่อนข้างใหม่มากๆ และในฟีเจอร์ที่ทำ Amity ก็เป็นผู้เดียวในโลก ขณะนี้ Amity มีเฮดออฟฟิศอยู่ที่มิลาน ประเทศอิตาลี และลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีพนักงานกว่า 200 คน และ 100 กว่าคนในนี้ ทำหน้าที่เป็น รีเสิร์ซแอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกในหลายๆ ประเทศ อาทิ noom, MONOPRIX, Grupo Boticario, kaizen, Pernod Ricard เป็นต้น ที่ผ่านมา Amity เติบโตในตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกาประมาณ 250% ต่อปี และมีเป้าหมายที่จะเติบโตเป็นดับเบิลในปีถัดไป 
 

"สำหรับคนไทย ถ้าพูดถึงซอฟท์แวร์ เราต้องทำธุรกิจที่มีรีจินัล เพราะธุรกิจพวกนี้ตลาดไทยเล็กมากๆ ถ้าทำแค่ไทย สุดท้ายคู่แข่งต่างประเทศก็จะเข้ามาดังนั้น เราต้องขยายธุรกิจให้เป็นระดับรีจินัล ไม่งั้นการเติบโตและอยู่รอดจะทำได้ยาก เทคอินดัสทรี เราต้องมองที่จะเป็นรีจินัล และไปโกลบอล เราคิดได้ เราทำได้" นายกรวัฒน์กล่าว