นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AWS กล่าวในงาน THAILAND SMART SME 2025 “SMART SOLUTIONS & SUSTAINABLE GROWTH” จัดโดย Posttoday ว่า SME ต้องเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยเฉพาะ คลาวด์ และ AI ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังเปิดโอกาสในการสร้างนวัตกรรมใหม่ และต่อยอดไปสู่ตลาดระดับโลก ท่ามกลางความท้าทายด้านต้นทุนแรงงานและการแข่งขันที่รุนแรง
“ทุกวันนี้ SME ไม่ต้องซื้อเซิร์ฟเวอร์แพงๆ ไม่ต้องจ้างคนดูแลระบบเต็มทีม ไม่ต้องกลัวลงทุนแล้วไม่คุ้ม เพราะคลาวด์ใช้เมื่อไหร่จ่ายเท่านั้น และสามารถปิดบริการได้ทันทีหากไม่เวิร์ก” วัตสันกล่าว พร้อมยกตัวอย่างกรณีช่วงโควิด-19 ที่ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถลดค่าใช้จ่ายระบบไอทีได้ทันที เมื่อไม่มีลูกค้าใช้บริการ หรือร้านค้าเล็กๆ ที่ปรับระบบ Point of Sale ให้รองรับเดลิเวอรีได้ในเวลาอันสั้น"
เขายังระบุว่า คลาวด์ช่วยให้ SME สร้างนวัตกรรมใหม่ได้เร็วขึ้น เพราะสามารถทดลองไอเดียได้โดยไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ มีเครื่องมือ AI ที่ใช้งานง่าย เช่น แพลตฟอร์ม partyrock.aws ที่ช่วยให้แม้แต่นักเรียนมัธยมปลายสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้เองโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถเปลี่ยนไอเดียเป็นธุรกิจจริงได้
ขณะเดียวกัน SME ที่มีแอปพลิเคชันสามารถนำขึ้นจำหน่ายบน AWS Marketplace ซึ่งมีลูกค้าทั่วโลก เปรียบเสมือน App Store สำหรับธุรกิจ ทำให้ไม่จำกัดเฉพาะลูกค้าในประเทศอีกต่อไป และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่จากเทคโนโลยี
นอกจากนี้คลาวด์ ยังมีข้อดีด้านสิ่งแวดล้อม โดยการใช้คลาวด์สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนลงได้มากกว่า 90% เมื่อเทียบกับระบบไอทีที่ติดตั้งเอง
ทั้งนี้ AWS ลงทุนในไทยแล้วกว่า 190,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 15 ปี เพื่อให้บริการคลาวด์ที่เสถียร ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง
“SME ที่จะอยู่รอดในยุคนี้ ต้องลดต้นทุนให้ได้ และสร้างนวัตกรรมให้เร็ว ใครยืนระยะได้ยาวกว่าจะเป็นผู้ชนะ คลาวด์และ AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม และไปสู่โอกาสใหม่ในตลาดโลก”