KEY
POINTS
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุม ประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตรา 13 ครั้งที่ 12/2568 และการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 4/2568
นายไชยชนก เปิดเผยว่า ที่ประชุม คกก. ยังคงเร่งรัดการดำเนินการป้องกันและปราบปรามภัยจากสแกมเมอร์ต่อเนื่องครอบคลุมในด้านต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้
สำนักงานกสทช. ดำเนินการตั้งคณะทำงานเปรียบเทียบปรับรายวัน โอเปอเรเตอร์ ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุม เรื่อง การลงทะเบียนซิม เสาสัญญาณ รวมทั้งการประสานงานบูรณาการข้อมูล ร่วมกับ ตร. และการประชาสัมพันธ์การปิดโรมมิ่งซิม พร้อมทั้งกำหนดแนวทางให้โอเปอเรเตอร์ปิดแบบอัตโนมัติ หากผู้ใช้บริการต้องการใช้งานสามารถดำเนินการแจ้งเปิดได้
ในส่วนของมาตรการกำหนดให้ โอเปอเรเตอร์มีส่วนรับผิดชอบร่วม ในเรื่องการจำหน่ายซิม และการลงทะเบียนซิม ตรวจสอบลูกตู้ หากไม่มีระบบการลงทะเบียน (KYC) ตามมาตรฐาน กสทช. จะไม่สามารถจำหน่าย หรือลงทะเบียนซิมได้
ด้านเรื่องของสัญญาณล้ำข้ามแนวชายแดน ยังคงมีการเร่งรัดดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ จ.หนองคาย ถือเป็นพื้นที่ที่ไม่พบสัญญาณล้ำชายแดนแล้ว ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการกระจายสัญญาณอยู่ เช่น พื้นที่ซึ่งมีเหตุการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งจะต้องมีการเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนประชาชนให้มีความระมัดระวัง การพยายามสแกมของมิจฉาชีพ เนื่องจากยังมีสัญญาณที่ล้ำไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบไม่มาก
ที่ประชุมได้มีมาตรการควบคุม โดยสนับสนุนหน่วยงานในการบูรณาการข้อมูลผ่านศูนย์กลาง พร้อมออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่างๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน อาทิ มติการแจ้ง Location ในการทำธุรกรรมโอนเงิน Mobile Banking ของธนาคารต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในส่วนของธนาคารที่มีความพร้อมให้เริ่มดำเนินการได้ในทันที ส่วนในธนาคารที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
กรณีการสแกนม่านตา ที่เกี่ยวข้องกับ กองทุนฯ VCC ได้มีการส่งหนังสือเพื่อขอข้อมูลการดำเนินการร่วมกันของหน่วยงานอื่นๆ ภายใต้กระทรวงดีอี และกระทรวงอื่นๆ โดยคดีนี้ได้รับการพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แล้ว
ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบภายใน ได้มีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบได้ในประมาณกลางเดือนมกราคม 2569 โดยในคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกหน่วยงาน ทั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตร. และดีเอสไอ
"ต้องขอขอบคุณ หน่วยงานภายใต้ที่ประชุม คกก. ซึ่งยังคงเร่งรัดการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างเต็มที่ โดยทุกหน่วยงานต่างให้ความสำคัญกับเรื่องของสแกมเมอร์ และพร้อมที่จะเดินหน้าหาทางออก แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และประเทศชาติร่วมกัน” นายไชยชนก กล่าว.