นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 3/2568 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ที่ประชุมเห็นชอบเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาวาระสำคัญที่เสนอโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA โดยมี นางไอรดา เหลืองวิไล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ร่วมนำเสนอสาระสำคัญ 2 เรื่องหลัก ได้แก่
ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล หรือ “National Cloud” ซึ่งเป็นการบูรณาการ คลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) และ คลาวด์ของหน่วยงานต่าง ๆ ให้เป็นระบบนิเวศเดียวกัน ภายใต้มาตรฐานที่คณะกรรมการฯ กำหนด และบริหารจัดการผ่าน Cloud Management Platform (CMP) ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดเอกภาพ ประสิทธิภาพ และความโปร่งใสสูงสุด
แนวทางนี้จะใช้ การจัดหาบริการแบบรวมศูนย์ (Centralized Procurement) เพื่อรวมความต้องการใช้บริการคลาวด์ของรัฐ ลดความซ้ำซ้อนและประหยัดงบประมาณ เพิ่มอำนาจต่อรองจาก economy of scales และยกระดับความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรของประเทศ โดยยังคงยึดหลัก อธิปไตยข้อมูล (Data Sovereignty) อย่างเข้มงวด โดยข้อมูลด้านความมั่นคงหรือข้อมูลที่มีชั้นความลับสูงต้องจัดเก็บภายในประเทศภายใต้กฎหมายไทยเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการบริการคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Management) ให้สอดคล้องกับนโยบายรวมศูนย์ พร้อมเห็นชอบ “แนวทางการจัดหาคลาวด์ ปี 2570” ครอบคลุมหลักการสำคัญ 6 ประการ คือ
ประธานที่ประชุมฯ ได้กำชับทางสำนักงบประมาณให้กำกับดูแลการขอรับงบประมาณด้านคลาวด์ในปี 2570 เป็นกรอบนำร่อง ก่อนบังคับใช้มาตรฐานแบบเต็มรูปแบบในปี 2571 เพื่อรองรับการใช้งาน National Cloud ตามกติกาเดียวกันในทุกหน่วยงาน
การประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้มีมติมอบให้ DGA วางแนวทางยกระดับแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยส่งต่อภารกิจในการยกระดับและต่อยอดการพัฒนาแอป “ทางรัฐ” เป็น Super App เพื่อการบริการประชาชนให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) เป็นผู้ดำเนินการต่อ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการบริหารจัดการและให้บริการ รวมถึงการพัฒนาต่อยอด และรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ข้อเสนอการพัฒนาแอป “ทางรัฐ” จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
นอกจากนี้ ความก้าวหน้าในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยยังสะท้อนผ่านผลการจัดอันดับของ Waseda University ร่วมกับ International Academy of CIO ปีนี้จัดอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 66 ประเทศทั่วโลก ด้วยคะแนน 81.6245 ดีขึ้นจากปีก่อน 1 อันดับ และยังคงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ รวมทั้งอยู่ในอันดับที่ 7 ของกลุ่ม APEC แสดงถึงพัฒนาการที่ต่อเนื่องของการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐไทย.