True ผนึกพลัง 'คลาวด์-ดาต้า-AI' ปูทางสู่ "Intelligent Network Nation"

ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ถ่ายทอดในการบรรยายหัวข้อ “Cloud: The Digital Backbone of Thailand’s Smart Cities 2030” ในงาน PostToday Thailand Smart City 2026 “Data Center - พลิกประเทศ” คลาวด์ ดาต้า และ AI หัวใจของการสร้างนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่

ดร. ธีรเดช ชี้ให้เห็นความสำคัญของ คลาวด์ ดาต้า และ AI ถือเป็น “สามเสาหลัก” ที่ขาดไม่ได้ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศ พร้อมย้ำชัดถึงความเชื่อมโยงว่า “ถ้าไม่มีคลาวด์ ก็ไม่มี AI” เนื่องจากคลาวด์ เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่ขับเคลื่อน AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมด  การเดินทางของเทคโนโลยีตลอด 10 ปีบนเส้นทางการพัฒนา จากเดิมที่เป็นเพียงการเชื่อมต่อและจัดเก็บข้อมูลขั้นพื้นฐาน ได้ยกระดับสู่ยุคของระบบอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-Powered Intelligence)  ระบบที่คาดการณ์และตัดสินใจได้เอง (Predictive Autonomous System) ตลอดจนแบบจำลองดิจิทัล (Digital Twin) สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเมืองอัจฉริยะ ขณะเดียวกันประเทศที่ลงทุนด้านคลาวด์ ดาต้า และ AI อย่างจริงจัง สามารถเพิ่ม GDP ได้อย่างน้อย 1.5–2.5% ยกระดับประสิทธิภาพภาครัฐ 30–50% ลดต้นทุนของ SME 40–60% และยังพัฒนาประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ได้ถึง 25–40% ซึ่งสะท้อนถึงผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน และแสดงถึงศักยภาพในการยกระดับบริการภาครัฐและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ถอดบทเรียนจากประเทศผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

ความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในหลายๆประเทศทั่วโลก สะท้อนภาพอนาคตที่ไทยควรมุ่งไปอย่างชัดเจนเช่นกัน อาทิ สิงคโปร์ เดินหน้าสร้าง Digital Government ที่เชื่อมต่อบริการภาครัฐผ่านคลาวด์ได้เกือบทั้งหมด  ขณะที่ สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาได้เลิกใช้ระบบโครงข่ายแบบเดิมที่ติดตั้งอยู่ในองค์กร (On-premise) เปลี่ยนมาใช้แนวคิด “Internet First” และ “Zero Trust” ออกแบบระบบให้เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก รวมถึงกำหนด “Zero Trust Federal Strategy” เป็นกรอบยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของภาครัฐ ส่วนที่ดูไบนั้นกำลังเดินหน้าสร้าง National AI Cloud ซึ่งแนวคิดเหล่านี้เป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นว่าคลาวด์ ดาต้า และ AI มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนบริการภาครัฐและยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมือง

ผสานพลัง Technology Stack และ Human Stack ก้าวสำคัญสู่ Thailand Cloud Ready

ประเทศไทย จะก้าวขึ้นเป็น “Thailand Cloud Ready” อย่างสมบูรณ์ ต้องบูรณาการ 2 แกนหลักคือ Technology Stack และ Human Stack เข้าด้วยกัน ด้านเทคโนโลยีมีโครงข่ายอัจฉริยะ (Intelligent Network) ทำหน้าที่เป็นแกนหลัก เชื่อมพลังของดาต้าและ AI ให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ขณะเดียวกัน Human Stack ที่ต้องมองว่า AI ไม่ได้มาแทนมนุษย์ แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่เสริมพลังประสบการณ์ ความรู้ และความเชี่ยวชาญของคนไทย ต่อยอดเป็นความคิดสร้างสรรค์และทักษะใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น  ซึ่งทรูได้นำโครงข่ายอัจฉริยะบูรณาการร่วมกับข้อมูลและ AI สร้าง “ศูนย์กลางข้อมูล” ดึงข้อมูลจากหลายระบบมารวมและวิเคราะห์ให้เห็นภาพประชาชนหรือลูกค้าแบบครบทุกมิติบนหน้าจอเดียว ช่วยให้ออกแบบบริการและความช่วยเหลือได้ตรงจุด ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น และคุณภาพชีวิตดีขึ้นควบคู่กันไป พร้อมกันนี้ ภาครัฐ เอกชนและประชาชนต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างมั่นใจและเต็มศักยภาพ เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตดิจิทัลอย่างแท้จริง

ทรู ยกระดับศักยภาพโครงข่ายสื่อสาร สู่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งอนาคต

ทรู ในฐานะผู้นำเทคคอมปานีไทย ได้ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลครบวงจร โดยใช้ คลาวด์ ดาต้า และ AI ผสาน Geo-location และ Intelligent Network เพื่อสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าแค่สัญญาณ ซึ่งจะเห็นได้จากการใช้เทคโนโลยีระบุโปรไฟล์และจัดลำดับความสำคัญในการส่งโดรนและทีมกู้ภัยลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ได้อย่างทันท่วงที ความสามารถนี้ถูกต่อยอดสู่ภาคธุรกิจเพื่อช่วยให้องค์กรเพิ่มรายได้และลดต้นทุน ในทุกอุตสาหกรรม  ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมเดินหน้าร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยเป็น Intelligent Network Nation ให้ทันสมัยและสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก  โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลและคนไทยที่มีความรู้ความสามารถและทักษะดิจิทัลเป็นพลังสำคัญ