กสทช.-AIS –TRUE & DTAC ตั้ง War room ป้องกันเสาสัญญาณมือถือไม่ให้ดับ

25 พ.ย. 2568 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2568 | 04:46 น.

กสทช.-AIS –TRUE & DTAC ตั้ง War room ป้องกันเสาสัญญาณไม่ให้ดับ ระดมกระสอบทรายล้อมระบบสื่อสารในพื้นที่ 7 จังหวัด

KEY

POINTS

  • กสทช. ร่วมกับ AIS, TRUE และ DTAC จัดตั้ง War Room ที่หาดใหญ่ เพื่อดูแลระบบสื่อสารและป้องกันปัญหาสัญญาณล่มจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้
  • มีการวางแผนฉุกเฉินใน 7 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และกระสอบทรายเพื่อป้องกันเสาสัญญาณ
  • ผู้ให้บริการแต่ละรายมีมาตรการเสริม เช่น AIS ให้บริการ WiFi ฟรีในศูนย์อพยพ ส่วน TRUE ใช้ "โมเดลทุ่งสง" เตรียมทีมวิศวกรและอุปกรณ์สำรองฉุกเฉิน
  • กสทช. ประสานงานกับเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นเพื่อช่วยแจ้งเตือนภัยและสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

วันนี้ 24 พฤศจิกายน 2568 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ และ รองเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กสทช. ,AIS,TRUE และ DTAC ได้จัดตั้ง War room ที่โรงแรมหาดใหญ่ซิกเนเจอร์ เพื่อดูแลระบบสื่อสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเสาสัญญาณจะต้องมีเครื่องเจน หรือ เครื่องกำเนิดสัญญาณ (Signal Generator) พร้อมทั้งได้วางแผนฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบ 7 จังหวัด  สงขลา ปัตตานี พัทลุง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ยะลา และ สตูล  ได้เตรียมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าสถานีฐาน และ น้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟสำรองในกรณีที่ถูกตัดไฟ เพื่อให้สถานีฐานที่เหลือยังคงให้บริการต่อได้อย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงาน กสทช. เตรียมพร้อมติดตามสถานการณ์และเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ตอนล่าง จังหวัดยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส ที่จะเกิดฝนตกสะสม น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งประสานผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างปกติ

สำนักงาน กสทช. ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ ดังนี้

  •  รถโมบายล์กระจายสัญญาณบริเวณศูนย์พักพิงและโรงพยาบาล หรือบริเวณที่รถสามารถเข้าถึง
  • แก้ปัญหาสัญญาณล่ม เพิ่มความแรงและปรับทิศทางเสาสัญญาณจากพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้บริการบริเวณที่เสาสัญญาณได้รับความเสียหาย
  •  เตรียมกระสอบทรายป้องกันสถานีฐานที่ยังไม่ได้รับความเสียหาย และเครื่องปั่นไฟสำรองพร้อมน้ำมัน เมื่อสถานีฐานถูกตัดไฟ
  •  ศูนย์สายลม เป็นแม่ข่ายวิทยุสื่อสาร สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

AIS เสริมบริการ AIS Free WiFi ที่ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อให้ประชาชน

ขณะที่ AIS หรือ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) AIS ยังดูแลเสถียรภาพโครงข่ายอย่างใกล้ชิด ติดตามสถานการณ์และพร้อมปรับแผนรองรับตลอด 24 ชั่วโมง เอไอเอส ขอยืนยันว่าจะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องชาวใต้และคนไทยทุกคน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

 

“TRUE” ชู “โมเดลทุ่งสง” ขยายแผนรับมือน้ำท่วมภาคใต้

ขณะที่ TRUE  หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ได้เพิ่มมาตรการฉุกเฉินในการติดตามสถานการณ์โครงข่ายในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งภาคใต้ พร้อมเตรียมความพร้อมทีมวิศวกรและอุปกรณ์สำรอง เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการติดต่อสื่อสารของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่น้ำท่วม

 กสทช.-AIS –TRUE & DTAC ตั้ง War room ป้องกันเสาสัญญาณมือถือไม่ให้ดับ

 

“โมเดลทุ่งสง” คือแนวทางที่ทรู คอร์ปอเรชั่นใช้ดูแลโครงข่ายในภาวะน้ำท่วมพื้นที่ อำเภอทุ่งสง และอีกหลายอำเภอของ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเร่งส่งทีมวิศวกรและทีมเน็ตเวิร์กลงพื้นที่ตรวจเช็กและปกป้องสายไฟเบอร์เส้นหลักที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของโครงข่ายก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นเร่งดูแลสถานีฐานและจุดสื่อสารสำคัญในพื้นที่น้ำท่วมและจุดเสี่ยงน้ำป่าทะลัก ตามแผนฉุกเฉิน เพื่อให้มือถือและเน็ตบ้านของประชาชนยังใช้งานได้ต่อเนื่อง แม้อยู่ท่ามกลางสถานการณ์อพยพและการประสานงานช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังมีมาตรการฉุกเฉินเสริมความพร้อมเครือข่าย ได้แก่ การเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่สำรองให้สถานีฐานในพื้นที่เสี่ยงไฟฟ้าดับจากน้ำท่วมโดยเฉพาะหาดใหญ่ การจัดรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (Cell on Wheels: COW) เสริมสัญญาณในจุดวิกฤต การเตรียมรถ 4WD และเรือท้องแบนเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย การจัดทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์สำรองดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานต่อเนื่อง การประสานงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน และการใช้ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC ร่วมกับระบบ AI Network Monitoring ดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง

 

NT เร่งแก้ไขสัญญาณเน็ต ส่วนมือถือยังใช้งานได้

NT หรือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด แจ้งว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่งผลกระทบต่อการให้บริการอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์บ้าน บางส่วน ขณะนี้ NT อยู่ระหว่างเร่งแก้ไขอย่างเต็มกำลัง

อย่างไรก็ตาม บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ my 700 MHz และบริการ Digital Trunk Radio Service (DTRS) ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ เพื่อรองรับการสื่อสารที่จำเป็นในพื้นที่.