KEY
POINTS
นายฮันดิกา จาห์จา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับการก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ มุ่งเน้นการยกระดับแพลตฟอร์มให้เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ช้อปปี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในภูมิทัศน์การค้าปลีกของไทย
โดยในทศวรรษต่อจากนี้ ช้อปปี้จะเดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์การเป็น “ประตูสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Gateway to the Digital Economy)” เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยทุกระดับอย่างเท่าเทียม พร้อมทั้งประกาศบทบาทในการเป็น “สะพานดิจิทัล (Digital Bridge)” เพื่อเชื่อมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยไปยังตลาดระดับภูมิภาค
นายธัญญธร เหล่าวัชระ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของเศรษฐกิจดิจิทัลภายในปี 2569 ช้อปปี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อในแต่ละหมวดหมู่สินค้าเป็นรายหลัก เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ 360 องศา
กลยุทธ์เชิงรุกนี้ถูกขับเคลื่อนผ่าน 4 หมวดหมู่สินค้าหลัก ซึ่งช้อปปี้ได้เตรียมโซลูชันใหม่เฉพาะทางไว้รองรับ:
หมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า (Electronics): เน้นการเชื่อมต่อประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยการเพิ่มบริการเสริม เช่น บริการติดตั้งสินค้าพร้อมการซื้อ และโปรแกรมแลกเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและประสบการณ์ครบวงจร
หมวดสินค้าแฟชั่น (Fashion): ให้ความสำคัญกับการตอบสนองเทรนด์ที่รวดเร็ว (Fast Fashion) ผ่านการนำเสนอคอลเล็กชันใหม่อย่างต่อเนื่อง การทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ (KOL) และการให้บริการจัดส่งด่วน
หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG): มุ่งเน้นการสร้างความผูกพันและกระตุ้นการซื้อซ้ำในระยะยาว โดยใช้เครื่องมือทางการตลาดรูปแบบใหม่ในการผลักดันสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ
หมวดสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle): ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ผ่านบริการจัดส่งที่รวดเร็วและคุ้มค่าด้วย Shopee Partner Logistics (SPL) พร้อมกับการสนับสนุนทางการเงินผ่านบริการช้อปก่อน จ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later)
เร่งเครื่อง "Speed Strategy" และการขยายตลาดระหว่างประเทศ
เพื่อรับมือกับความต้องการด้านความรวดเร็วของผู้บริโภค ช้อปปี้ได้พัฒนาและขยายขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ภายใต้กลยุทธ์ “Speed Strategy” อย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายบริการจัดส่งแบบเร่งด่วน เช่น บริการจัดส่งภายในวันเดียว (Same-day Delivery) และจัดส่งภายใน 4 ชั่วโมง (4-hour Delivery) เพื่อเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดค้าปลีกออนไลน์
ในมิติของการค้าระหว่างประเทศ ช้อปปี้ยังคงให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสทางการค้าในระดับภูมิภาค โดยได้เปิดตัวโครงการ Shopee Global Sales ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อยอดจาก Shopee International Platform (SIP) เพื่อสนับสนุนผู้ขายไทยให้ขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศในภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน โดยทำหน้าที่เชื่อมผู้ขายไทยเข้ากับผู้บริโภคในต่างประเทศโดยตรง
ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับภาครัฐและเครือข่ายครีเอเตอร์
ช้อปปี้ให้ความสำคัญกับการผนึกกำลังกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะความร่วมมือกับภาครัฐ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องกว่า 7 ปี ซึ่งสามารถผลักดันยอดขายของผู้ประกอบการไทยบน Landing Page “สุขใจซื้อของไทย” จนมีมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท
ในมิติของการตลาด ช้อปปี้ชูความแตกต่างด้วยความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือ KOL Partner โดยปัจจุบันยอดขายจากคอนเทนต์ในระบบของ Shopee Affiliate KOLs เติบโตขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงฟีเจอร์อย่าง Shopee Live และ Shopee Video ยังคงมีพลังขับเคลื่อนยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ช้อปปี้ยังได้ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง YouTube Shopping และ Shopee META Affiliate ในการร่วมกันสร้างการเติบโตให้กับโปรแกรม Affiliate อีกด้วย
การปรับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในครั้งนี้ของช้อปปี้ จึงเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดที่ไม่ได้จำกัดเพียงการเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้า แต่ยังมุ่งทำหน้าที่เป็น "พลังสนับสนุน" และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่องในระยะยาว