KEY
POINTS
จากกรณีที่ AIS หรือ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้เปิดใช้งาน 5G 3CC (3 Carrier Components Aggregation) หรือ 5G+ คือการรวม 3 คลื่นความถี่ (2600 MHz, 2100 MHz, 700 MHz) เพื่อเพิ่มความเร็วในการ ดาวน์โหลด ในพื้นที่อย่างสาทร และ พื้นที่สีลม ที่มีจำนวนผู้ใช้งานดีไวซ์ที่รองรับ 5G เกิน 70%
ล่าสุด นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ ของ AIS เปิดเผยว่า AIS ได้นำเทคโนโลยี 5G UL 2CC มาใช้งานเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการนำคลื่น 5G ความถี่ 700 MHz และ 2600 MHz มาทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มความเร็วในการอัปโหลดขึ้น 2 เท่า ปัจจุบัน 5G ครอบคลุมพื้นที่ 95% ของภาคอีสาน
เหตุผลที่ AIS นำเทคโนโลยี 5G UL 2CC มาให้บริการในพื้นที่ภาคอีสาน เนื่องจากแอปพลิเคชั่นในพื้นที่ภาคอีสานใช้อัปโหลดสูงสุดคือ Facebook และ TikTok ผ่านการ Live Streaming ทำให้ต้องมีการปรับเครือข่าย เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้งาน ด้วยการนำเทคโนโลยีอย่าง 5G UL 2CC มาใช้งานเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับสมาร์ทโฟน ที่รองรับเทคโนโลยี 5G UL 2CC ในปัจจุบันมีตั้งแต่ iPhone 17 ซีรีส์ รวมถึง OPPO vivo Xiaomi เป็น ส่วนซัมซุง จะทยอยอัปเดตให้ใช้งานในเร็ว ๆ นี้
นายวิสิษฐ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จำนวนผู้ใช้บริการ 4G ในภาคอีกสานมีประมาณ 10 ล้านเลขหมาย สำหรับ 5G มีผู้ใช้ 3.4 ล้านเลขหมาย
ด้านนายวิศรุต พิศาล หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค–ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของ AIS เปิดเผยเพิ่มเติมว่า AIS ได้นำระบบ Intelligent FARM มาให้บริการทั้งระบบ IoT และ คลาวด์เซอร์วิส ร่วมกับคูโบต้าทำโครงการ Kubota Smart Farm x AIS นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ผสานกับเกษตรกร และ กำลังทดสอบ โดรน หรือ ระบบยานพาหนะที่ไร้คนขับ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในการขนส่งพัสดุภัณฑ์ภายในมหาวิทยาลัยอีกด้วย ในด้านไฟเบอร์ หรือ การให้บริการอินเตอร์เน็ตเครือข่ายครอบคลุมแล้วถึง 6.6 ล้านครัวเรือน ปัจจุบันมีผู้ใช้ AIS ไฟเบอร์อยู่ที่ 1 ล้านครัวเรือนแล้ว
นายวสิษฐ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงโครงข่ายอัจฉริยะ ว่า การรองรับการใช้งานที่หนาแน่นในทุกเทศกาล คือ บทพิสูจน์ของโครงข่ายอัจฉริยะที่ AIS พัฒนามาอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด “AI for Sustainable Nation” ซึ่งไม่ใช่แค่การลงทุนใน 5G, Fiber Optic, Cloud หรือ Data Center เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่คือการนำ AI เข้ามาบริหารจัดการเครือข่ายในเชิงลึก
สำหรับเครือข่าย AIS รันด้วย AI และล่าสุด เอไอเอส ยังคงได้รับรางวัลระดับโลก Network AI Award จาก FUTURENET ASIA 2025 ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รางวัลนี้ยืนยันความเป็นผู้นำของ AIS ในการสร้างนวัตกรรมเครือข่ายอัตโนมัติ (Autonomous Network) ในภาคอีสาน เราใช้ AI Agent หลายตัวทำงานร่วมกัน (Multi-Agent Collaboration) ทั้งการดูแลประสิทธิภาพเครือข่าย (NW Optimization) และการจัดการเหตุขัดข้อง (Fault Handling) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ปัญหา (Troubleshooting efficiency) ถึง 30% และเพิ่มอัตราการปิดเคสอัตโนมัติ (Self-closed-loop rate) ได้ 23.4%