ทรูมันนี่ ผนึก ออร่าเวลเนส ปลุกเทรนด์ “ผ่อนสวย” เจาะตลาด Gen Z โต 125%

16 ต.ค. 2568 | 11:07 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2568 | 11:17 น.

ทรูมันนี่ จับมือ Aura Wellness ขยายอาณาจักร “Beauty Financing” ผ่านบริการ “เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า” ดันคนรุ่นใหม่เข้าถึงบริการความงามแบบยืดหยุ่น ผ่อน 0% นาน 12 เดือน ขณะยอดใช้จ่ายกลุ่ม Gen Z เพิ่มพุ่งกว่า 125%

KEY

POINTS

  • ทรูมันนี่ร่วมมือกับออร่า เวลเนส เปิดตัวบริการ "สวยก่อน ผ่อนทีหลัง" (Beauty Financing) เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
  • ลูกค้าสามารถผ่อนชำระค่าบริการความงาม 0% นานสูงสุด 12 เดือน ผ่านบริการ "เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า" (Pay Next Extra) บนแอปทรูมันนี่
  • แคมเปญนี้มุ่งเจาะตลาดกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้สินเชื่อดิจิทัลเพื่อความงามเติบโตสูงถึง 125%

นายธนรัฐ ธุวสุจิเรข ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์และโซลูชันทางการเงินดิจิทัลในภูมิภาค กล่าวว่า ทรูมันนี่ จับมือ “ออร่า เวลเนส” (Aura Wellness) ผู้นำธุรกิจสุขภาพและความงามครบวงจร เดินหน้ารุกตลาด “Beauty Financing” หรือเทรนด์ “สวยก่อน ผ่อนทีหลัง” ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทัล

โดยเปิดให้ลูกค้าสามารถชำระค่าบริการความงามผ่านทรูมันนี่ได้สะดวก ปลอดภัย และสามารถใช้ “ทรูมันนี่ คอยน์” เพื่อรับสิทธิพิเศษ พร้อมตัวเลือกผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 12 เดือน ผ่านบริการ “เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า” (Pay Next Extra) ของบริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด

ทรูมันนี่ ผนึก ออร่าเวลเนส ปลุกเทรนด์ “ผ่อนสวย” เจาะตลาด Gen Z โต 125% ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสานจุดแข็งระหว่างเทคโนโลยีทางการเงินและธุรกิจความงาม เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายที่คล่องตัวและยืดหยุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ “เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า” สมัครง่าย อนุมัติไว และมาพร้อมวงเงินสูง ช่วยให้ลูกค้าวางแผนค่าใช้จ่ายด้านความงามได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังได้รับความคุ้มค่าจากทรูมันนี่ คอยน์ ที่แลกสิทธิ์ได้โดยตรงที่ Aura Bangkok Clinic และ Aura Xpress

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมความงามไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่าธุรกิจความงามของไทยสร้างรายได้เฉลี่ยกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แรงหนุนหลักมาจากเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่พัฒนาเร็ว ความตื่นตัวในการดูแลตัวเองของทุกเพศวัย และบทบาทของโซเชียลมีเดียที่ผลักดันพฤติกรรมผู้บริโภค ส่งผลให้ตลาดไทยมีศักยภาพแข่งขันสูงในภูมิภาค

ปัจจุบันลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อในระบบ “เพย์ เน็กซ์” และ “เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า” มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่าผู้ใช้ทั่วไปถึง 2.3 เท่า ขณะที่หมวด “Beauty & Wellness” เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในระบบ โดยมียอดผ่อนชำระเพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนพลังของเทรนด์ “Beauty Financing” ที่กลายเป็นกระแสหลักของคนยุคใหม่

ที่น่าสนใจคือกลุ่มเจเนอเรชัน Z (Gen Z) กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดสินเชื่อดิจิทัล โดยมียอดใช้วงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่า 165% และเฉพาะในหมวดความงาม โตทะลุ 125% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มอง “ความงาม” เป็นการลงทุนในความมั่นใจและคุณภาพชีวิต มากกว่าการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีทางการเงินอย่างมีวินัยในการจัดการค่าใช้จ่าย

ทรูมันนี่ ผนึก ออร่าเวลเนส ปลุกเทรนด์ “ผ่อนสวย” เจาะตลาด Gen Z โต 125% บริการ “เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า” ถือเป็นผู้ให้บริการ Pay Later รายแรกของไทยที่ให้ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 48 เดือน และวงเงินอนุมัติสูงสุด 500,000 บาท ครอบคลุมตั้งแต่โปรแกรมดูแลผิว ไปจนถึงศัลยกรรมเสริมความงามระดับพรีเมียม โดยเชื่อมต่อกับฐานผู้ใช้งานแอปทรูมันนี่กว่า 20 ล้านรายทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

 

ด้าน นพ.เจตบดินทร์ ประคุณศึกษาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ออร่า เวลเนส จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับทรูมันนี่ในครั้งนี้ช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ด้วยการผสานบริการความงามเข้ากับโซลูชันการเงินที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงง่าย ภายใต้มาตรฐานคุณภาพของ Aura Bangkok Clinic และ Aura Xpress ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้บริการ

ทรูมันนี่ ผนึก ออร่าเวลเนส ปลุกเทรนด์ “ผ่อนสวย” เจาะตลาด Gen Z โต 125%

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้ “ทรูมันนี่ คอยน์” แลกรับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ส่วนลด 500 บาท โปรแกรมดูแลผิว Classic Skin โปรแกรม Botox แพ็กเกจดริปผิว และโปรแกรม Pico White ในราคาสุดคุ้ม พร้อมเลือกผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือน ครอบคลุมบริการหลากหลายรายการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2569

ทรูมันนี่และออร่า เวลเนส มองว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยขยายฐานลูกค้า แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมความงามไทยให้เติบโตบนฐานของนวัตกรรมทางการเงิน และสะท้อนแนวโน้มใหม่ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ “สวยอย่างยั่งยืน” ทั้งในแง่สุขภาพ การเงิน และความมั่นใจในตัวเอง