ตลาดหุ่นยนต์บริการไทยชะลอตัว คาดมูลค่า 2.14 พันล้านบาท

13 ต.ค. 2568 | 05:33 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2568 | 05:56 น.

ตลาดหุ่นยนต์บริการในไทย คาดว่ามูลค่าตลาด 2.14 พันล้านบาท ชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่ตลาดยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และโรงพยาบาล ขยายตัวสู่ต่างจังหวัด พร้อมโอกาสในการเติบโตในปีหน้า

KEY

POINTS

  • เนคเทคคาดการณ์มูลค่าตลาดหุ่นยนต์บริการไทยปี 2568 จะอยู่ที่ 2,141 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  • ปัจจัยหลักของการชะลอตัวมาจากภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้ผลิตต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน
  • แม้ภาพรวมจะชะลอตัว แต่ยังเติบโตในกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล และร้านอาหาร โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดที่ยังมีศักยภาพสูง

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค (NECTEC)  เผยผลการศึกษาตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยประจำปี 2568 ซึ่งพบว่า ตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องแม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตต่างชาติทำให้การเติบโตของตลาดในปีนี้ไม่ได้สูงเท่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

จากการศึกษาระบุว่า มูลค่าตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 66.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,141 ล้านบาท) โดยลดลงจากปี 2567 ซึ่งมีมูลค่าตลาด 74.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,419 ล้านบาท)

ตลาดหุ่นยนต์บริการไทยชะลอตัว คาดมูลค่า 2.14 พันล้านบาท แม้จะมีการลดลงบ้างจากปีที่แล้ว แต่ในภาพรวมแล้วตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มหุ่นยนต์บริการมืออาชีพ (Professional service robots) ซึ่งมีการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม

การเติบโตของหุ่นยนต์บริการในภาคธุรกิจ

การเติบโตของตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการหุ่นยนต์ในภาคธุรกิจการบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และโรงพยาบาล ที่กำลังใช้หุ่นยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และลดต้นทุนการจ้างงานหรือลดการสัมผัสระหว่างพนักงานและลูกค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญในการป้องกันโรคจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ตลาดหุ่นยนต์บริการไทยชะลอตัว คาดมูลค่า 2.14 พันล้านบาท ในปี 2568 หุ่นยนต์ประเภท Professional cleaning robots ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในธุรกิจโรงแรมและโรงพยาบาล โดยเฉพาะหุ่นยนต์ที่ใช้ในการทำความสะอาดสนามบิน โรงแรม และโรงพยาบาลชั้นนำ นอกจากนี้หุ่นยนต์ในกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ (Delivery robots) ก็ได้รับความนิยมในธุรกิจร้านอาหารเชนใหญ่ ๆ เช่น MK, Sukishi และ Bar B Q Plaza โดยการใช้งานหุ่นยนต์ช่วยให้การให้บริการมีความรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น

ตลาดหุ่นยนต์บริการไทยชะลอตัว คาดมูลค่า 2.14 พันล้านบาท ตลาดหุ่นยนต์บริการไทยชะลอตัว คาดมูลค่า 2.14 พันล้านบาท

การชะลอตัวในตลาดกรุงเทพฯ และการขยายตลาดในต่างจังหวัด

แม้ว่าการใช้หุ่นยนต์บริการในกรุงเทพฯ จะเข้าสู่จุดอิ่มตัวแล้ว แต่ตลาดในต่างจังหวัดยังคงมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล โรงแรม และกิจกรรมอีเวนต์ต่าง ๆ ที่เริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้น

ตลาดหุ่นยนต์บริการไทยชะลอตัว คาดมูลค่า 2.14 พันล้านบาท นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางรายเริ่มมองหาตลาดใหม่ ๆ ที่มีความต้องการหุ่นยนต์บริการในภาคธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น โรงพยาบาลที่มีการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะทางมากขึ้น

การขยายตลาดในต่างจังหวัดนั้นมีการคาดการณ์ว่าในปี 2569 ตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าในปี 2569 มูลค่าตลาดหุ่นยนต์บริการจะเพิ่มขึ้น 11% ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดมีมูลค่ามากกว่า 900 ล้านบาท

 

การเติบโตของตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยยังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตหุ่นยนต์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำและสามารถจำหน่ายหุ่นยนต์ในราคาที่ถูกกว่าผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยต้องเผชิญกับการแข่งราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในกลุ่มตลาดเฉพาะทาง เช่น การดูแลผู้สูงอายุหรือการแพทย์ ตลาดยังมีโอกาสที่ดีในการเติบโต แต่การใช้หุ่นยนต์ในธุรกิจเช่นร้านอาหารอาจถึงจุดอิ่มตัวเร็วขึ้น

ภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทย โดยการลดภาษีสำหรับผู้ใช้งานหุ่นยนต์บริการ การส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้งานหุ่นยนต์ในภาคธุรกิจต่าง ๆ การพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการนำเข้าและการทดสอบมาตรฐานของหุ่นยนต์บริการก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดในระยะยาว

การขยายตัวของตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยในอนาคตยังคงมีศักยภาพสูง แม้ว่าการเติบโตในปี 2568 จะชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่ในระยะยาว ภาคธุรกิจที่ต้องการการบริการที่มีคุณภาพสูงและมีประสิทธิภาพจะยังคงขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง

การพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต

สำหรับทิศทางการพัฒนาในอนาคต เทคโนโลยีหุ่นยนต์จะต้องใช้ประโยชน์จาก AI, 5G และการประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นและตอบสนองความต้องการของธุรกิจในหลากหลายด้าน เช่น การบริการสุขภาพ การขนส่ง และการดูแลผู้สูงอายุ

การสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการแข่งขันในตลาดหุ่นยนต์โลกจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนให้กับตลาดหุ่นยนต์บริการในประเทศไทย