'ไชยชนก' รมว.ดีอี จ่อถกแพลตฟอร์มขอความร่วมมือลดค่าธรรมเนียม

27 ก.ย. 2568 | 05:04 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2568 | 05:38 น.

'ไชยชนก ชิดชอบ' รมว.ดีอี วางเป้าหมายบริหารงาน 4 เดือน เน้นขอความร่วมมือภาคเอกชน ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการผูกมัดของ Logistics และการ ลดค่า GP (Gross Profit) ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ

KEY

POINTS

  • นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ประกาศนโยบายเร่งด่วนใน 4 เดือน เพื่อรับมือ 4 ภัยหลักของประเทศ
  • ชูการใช้เทคโนโลยีและระบบบูรณาการข้อมูล (ระบบอนุทิน) เพื่อรับมือภัย 4 ด้าน คือ ภัยธรรมชาติ, ความมั่นคง, เศรษฐกิจ และสังคม
  • มุ่งแก้ปัญหาภัยใต้ดิน (ตลาดมืด) โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในกระบวนการด่านศุลกากร เพื่อลดผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร

วันที่ 27 กันยายน 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี  เปิดเผยภายหลังสักการะศาลพระพรหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ศาลพระพรหม แยกอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร บี ถ.แจ้งวัฒนะ ว่า ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติและมีเวลาบริหารงานเพียง 4 เดือน รัฐบาลจำเป็นต้องเลือกทำในสิ่งที่สามารถให้ "ผลประโยชน์สูงสุด" ต่อประชาชนและเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่การ ป้องกันภัย และ การช่วยเหลือประคับประคอง เศรษฐกิจและประชาชนที่กำลังเผชิญกับหลายวิกฤตพร้อมกัน

ในส่วนของเศรษฐกิจ นายไชยชนก เน้นย้ำว่า จะต้องเร่งผลักดันอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงดีอีให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างราบรื่น ภายในกรอบเวลา 4 เดือนนี้

เปิด 4 ภัยหลัก รุมเร้าประเทศ เร่งใช้ "ระบบอนุทิน" บูรณาการข้อมูล

นายไชยชนก เปิดเผยอีกว่า นโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยได้วางกรอบการรับมือ 4 ภัยหลัก ไว้ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งดำเนินการทันที 

ภัยธรรมชาติ (Natural Disasters)  ยอมรับว่าไม่สามารถลงไปแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมในระยะยาวได้ทันแล้ว แต่สิ่งที่ทำได้คือการนำ "ระบบที่มีอยู่แล้ว" กลับมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้ "ระบบบูรณาการข้อมูล" ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  นำข้อมูลที่มีอยู่ไปใช้ถึงพื้นที่น้ำท่วมได้ก่อนเกิดเหตุเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ จะรวบรวมประสบการณ์จากศูนย์อพยพเพื่อกำหนด มาตรฐานปฏิบัติหน้าที่ ให้ข้าราชการสามารถเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

การประสานงานต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างจดหมายประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญจาก ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอคำแนะนำและอุปกรณ์ด้านการจัดการปัญหาเฉพาะทาง เช่น ดินยุบและแผ่นดินไหว

 

ไชยชนก ชิดชอบ

ไชยชนก ชิดชอบ

 

 

นายไชยชนก ชิดชอบ

 

ภัยความมั่นคง (Security Threats)  ยืนยันจุดยืนที่ชัดเจนของรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ โดยมีแผนจะ ลงพื้นที่ชายแดน เพื่อสอบถามความต้องการและนำ เทคโนโลยี เข้าไปช่วยสนับสนุนงานด้านความมั่นคงอย่างเร่งด่วน

ภัยเศรษฐกิจ (Economic Threats)  ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากทั้งปัจจัยภายใน (ความผันผวนทางการเมือง) และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์โลก (Geopolitics) เช่น สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ และโปแลนด์-รัสเซีย

มาตรการเร่งด่วน  เน้นการ ขอความร่วมมือ จากภาคเอกชน ภาครัฐ และประชาชน เพื่อรวมพลังฝ่าวิกฤต โดยจะเน้นไปที่การ ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการผูกมัดของ Logistics และการ ลดค่า GP (Gross Profit) ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ แม้บางเรื่องต้องใช้การแก้กฎหมาย แต่จะใช้ช่องทางขอความร่วมมือเพื่อให้เกิดผลรวดเร็วที่สุด

ภัยสังคม (Social Threats) ปัญหาใหญ่คือ Underground หรือ Black Market ที่เล็ดลอดเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนต่อราคาสินค้าเกษตร (เช่น ราคา มันสำปะหลัง ที่ดีดตัวขึ้นทันทีหลังมีการปิดด่านชั่วคราว) โดยได้พูดคุยกับกระทรวงการคลังและเห็นตรงกันในการนำ เทคโนโลยี มาช่วยในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การผ่านด่านศุลกากร เพื่อลด Human Error และเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ

นายไชยชนก กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้การแก้ปัญหาเหล่านี้จะใช้เวลาเกิน 4 เดือน แต่ข้อมูลที่ได้จากการทำงานอย่างจริงจังจะช่วยให้รัฐบาลชุดหน้าสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.