HMD Global ต่อสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์แบรนด์ Nokia

24 ก.ย. 2568 | 05:49 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ย. 2568 | 05:57 น.

HMD ประเทศไทย เดินเกมรุกตลาดต่อเนื่องทันทีที่ได้ต่อสิทธิ์ ใช้ชื่อ Nokia ในการผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนในแบรนด์โนเกียทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ต่อไปอีกประมาณ 2–3 ปี หลังจากไลเซนส์ครบสัญญาในปี 68

KEY

POINTS

  • HMD Global ได้ต่อสัญญาในการผลิตและจัดจำหน่ายฟีเจอร์โฟนแบรนด์ Nokia ทั่วโลกต่อไปอีก 2-3 ปี หลังปี 2568
  • ในประเทศไทย Nokia ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้สูงอายุ องค์กรธุรกิจ และผู้ที่ต้องการลดการใช้สมาร์ทโฟน (Social Detox)
  • HMD จะยังคงใช้กลยุทธ์สองแบรนด์ควบคู่กัน (HMD และ Nokia) และมีแผนเปิดตัวฟีเจอร์โฟนรุ่นใหม่ที่รองรับ 4G/5G ในราคาประหยัด

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) เปิดเผยว่า  การต่อไลเซนส์ใช้แบรนด์ Nokia ต่อในครั้งนี้ HMD Global ได้สิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายฟีเจอร์โฟนภายใต้ชื่อโนเกีย (Nokia) ทั่วโลก ต่อจากปี 2568 ไปอีก 2 – 3 ปี

โดยการขยายสัญญาครั้งนี้มีความสำคัญในหลายประเด็น ทั้งด้านความต่อเนื่องของแบรนด์โนเกียในการรักษาตำแหน่งแบรนด์ที่คนรู้จักและเชื่อถือต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ยังนิยมโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟน

HMD Global ต่อสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์แบรนด์ Nokia ขณะที่ HMD Global เองก็ยังสามารถดำเนินงานในการวางแผนผลิตสินค้าและการตลาดได้ตามกลยุทธ์ที่วางไว้

สำหรับในประเทศไทย แบรนด์ Nokia ยังคงมีฐานผู้ใช้งานกลุ่มใหญ่ที่ต้องการมือถือใช้งานง่าย แบตเตอรี่อึด ราคาจับต้องได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มองค์กรธุรกิจที่ใช้ฟีเจอร์โฟนแทนโทรศัพท์ในสำนักงาน นอกจากนี้ มือถือฟีเจอร์โฟนยังตอบโจทย์เทรนด์ Social Detox ที่ลดการพึ่งพาสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นอีกเซ็นเมนต์ที่มีความต้องการมือถือฟีเจอร์โฟน

HMD Global ต่อสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์แบรนด์ Nokia

ทั้งนี้ HMD ประเทศไทย ยังเดินหน้าจำหน่ายรุ่นยอดนิยม เช่น Nokia 105, Nokia 110 และตระกูลแกร่งกันน้ำกันกระแทก หรือ Rugged series เพื่อรองรับความต้องการใช้งานพื้นฐานที่ยังเติบโต และยังเตรียมส่งรุ่นราคาประหยัด ที่เชื่อมต่อ 4G/5G และรองรับแอปพื้นฐาน เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่เริ่มเปลี่ยนจากมือถือปุ่มกด

“เรายังคงใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ ด้วยการทำตลาดแบรนด์ HMD ไปพร้อม ๆ กับการทำตลาดแบรนด์ Nokia ในด้านผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม เราจึงให้ความสำคัญทั้งตลาดสมาร์ทโฟนและตลาดฟีเจอร์โฟน โดยว่างตำแหน่งของทั้ง HMD และ Nokia  เป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ยุโรปที่มีคุณภาพ ทนทาน และพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือของแบรนด์ในตลาด”

นายภราดร กล่าวและย้ำว่า “การขยายสัญญาครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Nokia และ HMD Global ที่จะยังคงรักษาฐานผู้ใช้กลุ่มฟีเจอร์โฟน และต่อยอดสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สมาร์ทโฟนราคาจับต้องได้ โดยเฉพาะในตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างประเทศไทย”