KEY
POINTS
นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall กล่าวว่าภารกิจของ Whoscall คือ การเสริมสร้างความไว้วางใจของชุมชน และยกระดับ การป้องกันภัยคุกคามทางดิจิทัลในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชัน Whoscall โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ โดยแอปฯ ได้พัฒนาไปไกลกว่าการเป็นเพียงฟีเจอร์ตรวจสอบหมายเลขโทรเข้า (Caller ID) สู่การเป็น แพลตฟอร์มปกป้องภัยทางดิจิทัลแบบครบวงจร (A comprehensive digital protection platform) สำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
สถานการณ์ภัยมิจฉาชีพที่น่ากังวล
จากรายงาน Whoscall Report 2025 พบว่า ภัยหลอกลวงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ประจำวันของคนไทยไปแล้ว โดยจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างคนไทยจำนวน 1,000 คน พบว่า
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึง “วิกฤตความเชื่อมั่น” ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันของคนไทยที่กำลังเกิดขึ้น ในระดับประเทศโดยไม่ใช่แค่สถิติธรรมดา แต่สะท้อนถึง ‘ความเชื่อมั่นที่พังทลายลงในชีวิตดิจิทัลของเรา’ ที่ Whoscall เราเชื่อว่า ‘นวัตกรรม’ จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อมันสามารถ ‘ยกระดับความเชื่อมั่น’ เหล่านั้นได้ และนั่นคือเหตุผลที่พันธกิจใหม่ของเราคือการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในสังคมไทยผ่านพลังของนวัตกรรมและผู้คน”
Whoscall ยกระดับแพลตฟอร์มป้องกันภัยดิจิทัล พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ ด้วยเทคโนโลยี AI และพลังจากผู้ใช้งาน หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่เห็นผลชัดเจนที่สุดในขณะนี้ คือ การอัปเกรดแพลตฟอร์ม Whoscall สู่เครื่องมือปกป้องภัยดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ โดยได้รับการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ทั่วประเทศ ซึ่งการยกระดับครั้งนี้ครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ “การปกป้อง (Protection)” “พลังคอมมูนิตี้ (Community)” และ “นวัตกรรมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ (Innovation to enhance every lifestyle)” โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจในทุกมิติงของชีวิตประจำวัน
ในมิติของ การปกป้อง Whoscall ยังคงพัฒนาการระบุเบอร์ (Caller ID) อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้ iOS อย่างการระบุสายเรียกเข้าเรียลไทม์+ (Live Caller ID Plus) รวมถึงฟีเจอร์คอนเทนต์เช็กเกอร์ แบบ All-in-One ที่สามารถตรวจสอบความเสี่ยงของ รูป เบอร์โทร ข้อความ และลิงก์ได้ทันทีในที่เดียว เพิ่มเติมด้วยฟีเจอร์ ID Security ที่ช่วยเช็กได้ว่าข้อมูล เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล ของคุณเคยรั่วไหลไปที่ไหนบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถป้องกันตัวเองได้ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อ
ในแกนของคอมมูนิตี้ Whoscall มุ่งเปลี่ยนผู้ใช้ไปสู่บทบาท “ผู้พิทักษ์” โดยระบบรายงานภัยมิจฉาชีพ ได้เสริมพลังกับระบบ สะสม Badge ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ ยกย่องการมีส่วนร่วม ให้ผู้ใช้ได้เห็นผลลัพธ์ ของการปกป้องคอมมูนิตีอย่างชัดเจน พร้อมได้รับการยอมรับและจดจำในฐานะผู้สร้างความปลอดภัยให้สังคมดิจิทัล เรายังทำให้การปกป้องสนุกขึ้นด้วย Whoscall Mission ที่ผู้ใช้สามารถสะสมแต้มจากทุกการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอินรายวัน การแนะนำเพื่อน หรือกิจกรรมง่ายๆ อื่นๆ แต้มเหล่านี้สามารถนำไปแลกรับรางวัลจากพาร์ทเนอร์ของ Whoscall หรือแลกเป็น Whoscall Premium ได้ เพื่อเป็นการขอบคุณทุกการมีส่วนร่วมของคุณที่ช่วยปกป้องคอมมูนิตี้
ในด้านของ นวัตกรรม Whoscall มีบริการฟีเจอร์ใหม่ เช่น Scam SOS, Voice Alert และ Scam Alert ที่ผสานข้อมูลเชิงลึกจาก AI เข้ากับพลังของผู้ใช้ เพื่อส่งมอบการแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที และช่วยยกระดับ ความมั่นใจในการสื่อสารทางดิจิทัล
เบื้องหลังฟีเจอร์สำคัญต่าง ๆ ของ Whoscall คือระบบป้องกันภัยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเสริมความแม่นยำด้วย Geminiและฐานข้อมูลเว็บไซต์ต้องสงสัยกว่า 10 ล้านรายการจาก ScamAdviser ซึ่งเป็นพันธมิตรระดับโลกด้านการวิเคราะห์กลโกงออนไลน์
ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงนี้ Whoscall สามารถตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามได้อย่าง รวดเร็วและแม่นยำ แบบเรียลไทม์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ทุกฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และทำให้การปกป้องผู้ใช้ เป็นไปอย่างรอบด้าน ระบบป้องกันนี้ไม่เพียงอาศัยพลังของ AI เท่านั้น แต่ยังผสานความร่วมมือ จากผู้ใช้จริง ในชุมชน ที่มีส่วนร่วมในการรายงานภัยและเสริมข้อมูลเพื่อสร้างเกราะคุ้มกัน ให้กับสังคมไทยในโลกดิจิทัล อย่างแท้จริง