กลายเป็นประเด็นร้อนแรง หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ฝากเงินในบัญชีธนาคาร มียอดติดลบแล้ว บัญชีถูกอายัด เนื่องจากมีเงินเข้าจากบัญชีม้า มีการแจ้งความเสียหายไปยังศูนย์ AOC 1441 แทนที่จะปิดเส้นทางเงินที่เข้าบัญชีผู้เสียหาย จนกลายเป็นอายัดทั้งบัญชีทั้งหมด
AOC 1441 เป็นศูนย์ One Stop Service จัดตั้งโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เพื่อแก้ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์สำหรับประชาชน มีการจัดตั้ง War-room เพื่อดำเนินการด้านคดีให้กับประชาชนแบบเร่งด่วน ซึ่งได้มีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างใช้ชื่อ AOC 1441 ในการสร้าง Page Facebook หรือ Line Official ปลอมเพื่อหลอกลวงประชาชน
ต่อมา พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
ทำให้ กระทรวงดีอี ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ตามมาตรา 8/5 แห่งพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568
บทบาทหน้าที่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นการยกระดับศูนย์ AOC 1441 โดย "ศปอท." จะเป็นกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์ สั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน ประสานงานวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้ตั้ง นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอี และเลขานุการ คณะกรรมการฯ ทำหน้าที่หัวหน้า ศปอท. ตามมาตรา 8/7
ศูนย์ AOC 1441 มีเป้าหมายการจัดตั้งเพื่อ
สถิติความเสียหายสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 - 14 กันยายน 2568 ดังนี้
หากประชาชนท่านใดตกเป็นเหยื่อโจรออนไลน์ สามารถแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ (เฉพาะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ที่เว็บไซต์นี้เท่านั้น www.thaipoliceonline.go.th หากมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
ที่มา: