วันที่ 5 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้มีข้อสั่งการ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม
“โดย ครม.แต่งตั้ง ผม ให้เป็นประธาน และ ปลัดกระทรวงดีอี เป็นรองประธานกรรมการ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนและสกัดข่าวปลอมอย่างต่อเนื่อง”
เหตุผลที่แต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว เนื่องจากว่าเพื่อรับมือกับข่าวปลอมด้านความมั่นคง โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่ทวีความรุนแรงและมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะข้อมูลข่าวสาร ที่ถูกสร้างขึ้นและถูกส่งต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์ และ ระบบอินเตอร์เน็ตที่มีการเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสมโดยมีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร (Fake news) ไปจากข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดการปลุกระดมยั่วยุ สร้างความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และ ทรัพย์สินของประชาชน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ตลอดจนความมั่นคงและความเชื่อถือของประเทศ
สำหรับคณะกรรมการชุดนี้ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เจ้ากรมข่าวของเหล่าทัพ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ฯลฯ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่มีขึ้นทางสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
นอกจากนี้ได้หารือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายสำคัญอย่าง Meta ในเบื้องต้น ซึ่งจะมีการสนับสนุน 5 แนวทาง คือ
นอกจากนี้จากข้อมูลสถิติของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 - 31 กรกฎาคม 2568 พบว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้ทำการคัดกรองจำนวนข้อความทั้งหมด 1,188,564,734 ข้อความ โดยมีจำนวนข้อความที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบ 2,279,897 ข้อความ ซึ่งแยกเป็นเรื่องที่ส่งตรวจสอบ จำนวน 41,882 เรื่อง สามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ข่าวสารที่ผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ดังนี้
ขณะเดียวกันมีเรื่องที่ได้รับการตรวจสอบแล้วจำนวนทั้งหมด 21,622 เรื่อง โดยแบ่งเป็น (1) ข่าวปลอม จำนวน 7,714 เรื่อง (2) ข่าวจริง จำนวน 8,577 เรื่อง (3) ข่าวบิดเบือน จำนวน 2,456 เรื่อง (4) ข้อมูลไม่เพียงพอ จำนวน 2,875 เรื่อง
“ ขณะนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ และยกระดับการดำเนินการเรื่องของข่าวปลอมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลจึงได้จัดตั้ง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งชาติ ซึ่งนอกจากการตรวจสอบเฝ้าระวัง และดำเนินการปิดกั้นข่าวปลอมแล้ว ศูนย์ฯ ดังกล่าวจะมีหน้าที่ทำงานเชิงบวกในการชี้แจงและทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงของข่าวเพื่อที่จะสามารถสื่อสารให้กับประชาชนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยมีการหารือร่วมกับแพลตฟอร์มทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจและขอความร่วมมือในการปิดกั้นข่าวปลอมที่มีการเผยแพร่ โดยเฉพาะข่าวปลอมที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของประเทศ” รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว.