นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดเผยว่า ETDA โดยทีมกำกับดูแลกฎหมาย DPS ได้เปิดเวที “ประชุมชี้แจงมาตรการดูแลการให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ประเภทตลาดออนไลน์” ภายใต้ พ.ร.ฎ. การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 (กฎหมาย DPS)
โดยได้เชิญแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้า (Online Marketplace) ที่มีลักษณะเฉพาะตามความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินและพาณิชย์ ความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อสาธารณชน และมีผลกระทบในระดับสูง ตามมาตรา 18(2) จำนวน 19 บริการ ตาม ประกาศ สพธอ. เรื่องกำหนดรายชื่อบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 20 ภายใต้กฎหมาย DPS (ที่มีผลบังคับใช้ 10 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา)
เพื่อทำความเข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ รวมถึงแนวทางกำกับดูแลภายใต้กฎหมาย DPS ที่ทั้ง 19 บริการ Online Marketplace ที่เข้าข่ายเสี่ยงสูงจะต้องปฏิบัติเพิ่มเติม ภายใต้ประกาศ คธอ. เรื่อง การดำเนินการอื่นสำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้า ที่มีลักษณะเฉพาะตามมาตรา 18 (2) แห่ง พ.ร.ฎ. การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2568 ไม่ว่าจะเป็น จะต้องปฏิบัติเพิ่มเติม ตามมาตรา 20 เพื่อยกระดับความปลอดภัย มาตรฐานสินค้า
และคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบการหรือผู้ขาย รวมถึง ตรวจสอบ และ เปิดเผยข้อมูลผู้ขาย, ตรวจสินค้าที่ต้องมีมาตรฐานก่อนขาย, วางนโยบายกำกับสินค้า และ ผู้ขาย, มีกลไกให้ผู้ใช้งานแจ้งปัญหาได้ เมื่อตรวจสอบแล้วต้อง แจ้งผลแก่ผู้ร้องเรียนและผู้ขายภายใน 3 วัน, ส่งข้อมูลผู้ขายที่กระทำผิด เมื่อหน่วยงานรัฐร้องขอ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ยังได้ชี้แจงถึงหลักเกณฑ์การประเมินแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้าออนไลน์ที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงสูง เข้าเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ (1) มีมูลค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบริการ จากการให้บริการในไทยเกิน 100 ล้านบาท (2) ผู้ประกอบธุรกิจไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลกับ DBD และมีจานวน Business User ตั้งแต่ 100 ราย (3) ผู้ประกอบธุรกิจไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลกับ DBD และมีจำนวน AMAU มากกว่า 5% แต่ไม่เกิน 10% ของ Population
(4) มีลักษณะบริการที่ผู้ใช้บริการสามารถกระทำการใดโดยไม่มีมาตรการควบคุมดูแลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อสาธารณชนในรูปแบบของข้อความ หรือการกระทำดังต่อไปนี้ ผิดกฎหมาย, กระทบต่อสิทธิมนุษยชน ข้อมูลส่วนบุคคล, กระทบต่อเด็ก, ผลกระทบทางลบต่อความเห็นทางการเมือง และการเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง หรือกระทบต่อเพศ ความรุนแรงทางเพศ
ซึ่งนอกจาก 19 รายชื่อที่ประกาศออกไป ขณะนี้ ETDA อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการประกอบธุรกิจของแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ เพิ่มเติม หากพบว่ามีแพลตฟอร์มที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ก็จะมีการประกาศรายชื่อเพิ่มเติมต่อไป ตามที่มาตรา 24 ที่กำหนดให้ต้องมีการ “ทบทวนรายชื่อ” แพลตฟอร์มที่เข้าข่ายเสี่ยงสูงเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการประชุมก็ได้เปิดโอกาสให้ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้าร่วมได้ซักถามถึงประเด็นข้อสงสัย ภายใต้กฎหมาย DPS ต่อทีมกำกับดูแล เพื่อให้การให้บริการมีความสอดคล้องกับประกาศและกฎหมาย DPS มากที่สุด
โดยประเด็นที่แพลตฟอร์มดิจิทัลสอบถามเพิ่มเติมหลักๆ จะเป็นเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้ในการคัดเลือกบริการที่มีหน้าที่เพิ่มเติมตามประกาศนี้, การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ อย. และ สมอ. ที่สอดคล้องกับประกาศ, การเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงาน อย. สมอ., การพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ผู้ประกอบการแจ้ง และระยะเวลาดำเนินการก่อนประกาศนี้มีผลบังคับใช้ (180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา)
ซึ่ง ETDA ยังได้เชิญหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สมอ. อย. และ สคบ. เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือและร่วมตอบข้อสงสัย ซึ่งถือเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานกำกับ และ แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อยกระดับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทุกคนมั่นใจด้วย