ส่องสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปโมเดล แห่ชิงกำลังซื้อตลาดครึ่งปีหลัง

ตลาดสมาร์ทโฟนช่วงนี้คึกคักขึ้นมาหลังจากผู้ผลิตรายใหญ่ ทั้ง ซัมซุง OPPO หรือ vivo  ต่างพากันเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงออกสู่ตลาด  เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อช่วงครึ่งปีหลัง  ก่อน iPhone รุ่นใหม่จะเปิดตัวเดือนกันยายน  “ฐานเศรษฐกิจ”ได้รวบรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแต่ละค่ายที่กำลังเปิดตัว

เริ่มต้นจากซัมซุงเตรียมเผยโฉมที่สุดของ Galaxy AI และความประณีตในงานดีไซน์เป็นเอกลักษณ์บนอุปกรณ์ล่าสุด ในงาน Galaxy Unpacked ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ที่เมืองบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ย่านที่เต็มไปด้วยพลังแห่งแรงบันดาลใจและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันโดดเด่น ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแนวคิดใหม่ ๆ และไอเดียสร้างสรรค์ที่เป็นตัวกำหนดอนาคตของผู้คน จึงเป็นสถานที่อันเหมาะสมสำหรับการเปิดตัวสมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล Galaxy ซึ่งแน่นอนว่าเป็น Galaxy Z Fold 7 และ Galaxy Z Flip 7

สรุปคาดการณ์สเปค และฟีเจอร์  Galaxy Z Fold 7 - Galaxy Z Flip 7

Galaxy Z Fold 7

การออกแบบและจอแสดงผล

- หน้าจอหลัก: Galaxy Z Fold 7 ใช้ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 8.2 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 2224 x 2488 พิกเซล ซึ่งช่วยให้ภาพที่แสดงผลมีความคมชัดสูงและสีสันที่สดใส ส่วนหน้าจอภายนอก ขนาด 6.5 นิ้ว ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก

- การพับและวัสดุ: รุ่นนี้คาดว่าจะมีความหนาแค่ 4.5 มม. เมื่อกางออกและ 9.5 มม. เมื่อพับ ทำให้ดูบางลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งนี้วัสดุที่ใช้ในการผลิตยังคงเป็น อลูมิเนียม และ กระจก Gorilla Glass Victus 2 ที่ให้ความทนทานสูง

ประสิทธิภาพและหน่วยประมวลผล

- หน่วยประมวลผล: การใช้ Qualcomm Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับเรือธงในปี 2025 จะช่วยให้การทำงานของ Galaxy Z Fold 7 ไหลลื่น และรองรับการใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกมหรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการทรัพยากรสูง

- RAM 12GB และความจุสูงสุด 1TB จะช่วยให้การทำงานมัลติทาสกิ้งไม่มีปัญหา รองรับการใช้งานแอปหลายตัวพร้อมกัน

กล้อง

-กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 200MP มาพร้อมกับกล้อง Ultra Wide 12MP และ Telephoto 10MP พร้อมซูมออปติคอล 3x ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพในหลายสภาวะได้อย่างละเอียดและมีคุณภาพ

-กล้องหน้า: กล้องใต้จอ 4MP รองรับการเซลฟี่ที่มีความละเอียดสูง

แบตเตอรี่และการชาร์จ

-แบตเตอรี่ขนาด 4,400mAh รองรับการใช้งานทั้งวัน รวมถึง การชาร์จเร็ว 25W และ การชาร์จไร้สาย 15W

Galaxy Z Flip 7

การออกแบบและจอแสดงผล

- หน้าจอหลัก: ใช้ LTPO AMOLED ขนาด 6.85 นิ้ว ที่มีการปรับปรุงในเรื่องของการใช้พลังงาน โดยสามารถปรับรีเฟรชเรตได้ตั้งแต่ 1Hz ถึง 120Hz ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ซึ่งช่วยประหยัดแบตเตอรี่

- หน้าจอภายนอก ขนาด 4 นิ้ว ใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน ช่วยให้การดูข้อมูลหรือการแจ้งเตือนทำได้สะดวกขึ้น

ประสิทธิภาพและหน่วยประมวลผล

- ใช้ Snapdragon 8 Elite หรือ Exynos 2500 ในบางภูมิภาค ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงได้อย่างราบรื่น

- RAM 12GB และความจุสูงสุด 512GB จะเพียงพอสำหรับการใช้งานทุกประเภท

กล้อง

- กล้องหลัง ความละเอียด 50MP และ Ultra Wide 12MP ให้คุณถ่ายภาพได้ละเอียดแม้ในสภาพแสงน้อย

- กล้องหน้า ความละเอียด 10MP รองรับการเซลฟี่ที่ชัดเจน

แบตเตอรี่และการชาร์จ

-แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับการใช้งานทั้งวัน พร้อมการชาร์จเร็ว 25W และการชาร์จไร้สาย 15W ซึ่งทำให้ชาร์จเต็มได้เร็วขึ้น

ส่ง OPPO Reno14 Series 5G ลุยตลาดระดับกลาง

ขณะที่ “ออปโป้” เดินหน้ารุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัว ‘OPPO Reno14 Series 5G’ในวันที่ 1 ก.ค.นี้   ชูจุดเด่นสมาร์ทโฟน AI คู่ใจสายชิค & ชิลล์ พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจให้โดดเด่นในทุกช่วงเวลา ต่อยอดความสำเร็จจากแนวคิด ‘The AI Portrait Expert’ อัปเกรดประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตไปอีกขั้น เข้าใจผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างแท้จริง พร้อมสร้างเทรนด์ด้วย AI Flash Photography ถ่ายพอร์ตเทรตสุดชิคด้วย AI แฟลช พร้อมเป็นสมาร์ตโฟนราคาระดับกลางหนึ่งเดียวที่มาพร้อมกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ 3.5x เสริมด้วยเครื่องมือปรับแต่งภาพ อย่าง AI แก้ไขภาพอัจฉริยะ 2.0 นำโดย AI ปรับเฟรมภาพ, AI ปรับหน้าเป๊ะ และอีกมากมายให้ไม่พลาดช็อตสำคัญ บนดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากลวดลายหางปลาแสนอิสระและสีสันที่หลากหลาย

 เตรียมเผยโฉมแรก vivo X200 FE

ส่วน ค่าย vivo  เตรียมเผยโฉมแรกอย่างเป็นทางการของ vivo X200 FE สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมเข้ามาตอบโจทย์ความคล่องตัวพร้อมลุยทุกกิจกรรมด้วยประสิทธิภาพระดับเรือธงและฟีเจอร์ครบครันที่ครั้งนี้อัดแน่นมาในขนาดคอมแพกต์กว่าที่เคย รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “จับกระชับ ชัดทุกช็อต” หรือ “ZEISS Image. Pro Packed.” โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้

vivo X200 FE โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่สะท้อนความพรีเมียมเรียบหรู พร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนานยิ่งขึ้นด้วยสีสันสุดอินเทรนด์ถึง 4 ตัวเลือก ได้แก่ สีฟ้าบลูบรีซ (Blue Breeze) สะท้อนโมเมนต์แห่งความสงบผ่อนคลาย เติมเต็มความสดชื่นให้ชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี สีชมพูพิงก์ไวบ์ (Pink Vibe) โทนสีที่ช่วยเสริมความมั่นใจ ให้ผู้ใช้สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ สีเหลืองเยลโลว์โกลว (Yellow Glow) สะท้อนถึงความอบอุ่น และความสุขของช่วงเวลาพักผ่อน และสีดำแบล็กลักซ์ (Black Luxe) ให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึกและหรูหราสง่างามในเครื่องเดียว มาพร้อมหน้าจอแบนขนาด 6.31 นิ้วที่ออกแบบมาเพื่อการจับถือที่กระชับ พอดีมือและสะดวกสบายแม้ใช้งานด้วยมือเดียว ขอบตัวเครื่องผลิตจากอัลลูมิเนียมอัลลอยด์ และโครงสร้างโลหะเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ เสริมความแข็งแกร่งและทนทานต่อการตกหล่นแม้ไม่ได้ตั้งใจได้เป็นอย่างดี

นอกจากดีไซน์ที่สวยสะดุดตา vivo X200 FE ยังถูกออกแบบมาให้โดดเด่นด้านประสิทธิภาพการทำงานในทุกมิติ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตเรือธง Dimensity 9300+ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล การตอบสนองรวดเร็วในทุกสถานการณ์ เสริมความมั่นใจด้วยแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุสูงถึง 6500mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 90W FlashCharge ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน สำหรับสายถ่ายภาพ vivo X200 FE ยังคงจับมือกับ ZEISS เพื่อพัฒนาและส่งมอบเลนส์ รวมถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ที่เข้ามาช่วยถ่ายทอดทุกรายละเอียดให้สวยงามอย่างแม่นยำทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น ZEISS Professional Imaging กล้องพอร์ตเทรตระดับโปร ZEISS Super Telephoto และกล้องหลักความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล เสริมด้วยเทคโนโลยี AI ปรับแต่งภาพอัจฉริยะอีกมากมายภายใต้ AI Image Studio ที่สามารถช่วยสร้างสรรค์ภาพถ่ายให้สวยงามตามต้องการได้ในทุกช็อต

ปิดท้ายด้วยค่ายเสียวหมี่   ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์  POCO  ร่วมแข่งขัน  โดยได้เปิดตัว POCO F7 ซึ่งใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon® 8s Gen 4 Mobile Platform ที่มอบประสิทธิภาพระดับเรือธงและความทรงพลังให้กับผู้ใช้งาน  ทั้งนี้การเปิดตัว POCO F7 Cyber Silver Edition (POCO F7 สี Silver) ซึ่งมีโลโก้ Snapdragon ที่ด้านหลังนั้น ก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพอันทรงพลังเข้ากับดีไซน์อันโดดเด่น

นอกจากนี้ ในการเปิดตัวครั้งนี้ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยด้วยการเปิดตัว Rydr อวตารเสมือนจริงตัวแรกของ POCO ซึ่งเป็นตัวแทนของความเร็ว พลัง และการทำงานอย่างอัจฉริยะ Rydr ยังสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ก้าวล้ำของ POCO พร้อมกันนี้ POCO Thailand ได้ประกาศราคาจำหน่ายและโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ถึง 7 กรกฎาคม 2568 โดย POCO F7 รุ่นความจุ 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 14,499 บาท (จากราคาปกติ 14,999 บาท) และ POCO F7 รุ่นความจุ 12GB + 256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ13,499 บาท (จากราคาปกติ 13,999 บาท)