อาเซียนตื่นตัวเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นไทยล้าหลังเวียดนาม

16 มิ.ย. 2568 | 08:09 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2568 | 08:19 น.

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ประเทศในอาเซียนเร่งพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นไทยตามหลังเวียดนาม แนะรัฐบาลเร่งปรับกลยุทธ์และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับเทคโนโลยีใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วโลก กลุ่มประเทศในอาเซียนกำลังผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก โดยมีรัฐบาลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เพื่อให้ประเทศต่างๆ สามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน

อาเซียนตื่นตัวเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นไทยล้าหลังเวียดนาม ทั้งนี้ประเทศไทยเองมีการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยังคงตามหลังประเทศเวียดนามที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น

 

เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “Call to Action: Learning from the Best Practices” ซึ่งได้รวบรวมผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการกว่า 50 คน เพื่อระดมสมองในการหาทางออกในการยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลของประเทศไทย และได้เสนอแนะ 8 แนวทางที่สามารถใช้ในการพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

อาเซียนตื่นตัวเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นไทยล้าหลังเวียดนาม

นายคอลินน์ ดินน์ กรรมการผู้จัดการจากบริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (BCG) กล่าวในการประชุมว่า การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นต้องเริ่มจากการมีนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยประเทศในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ต่างก็มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่โดดเด่น ซึ่งประเทศไทยยังต้องเร่งพัฒนาในด้านนี้ให้เทียบเท่ากับคู่แข่งในภูมิภาค

ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญ โดยจะต้องมุ่งเน้นการสร้างทักษะดิจิทัลให้กับประชาชนผ่านการฝึกอบรมและการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยในส่วนของภาครัฐนั้นจะต้องพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และต้องมีความปลอดภัยสูงเพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการใช้งาน

 

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาครัฐและภาคเอกชนยังเป็นอีกหนึ่งข้อเสนอที่สำคัญ โดยต้องมีการพัฒนาระบบ AI ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั้งในระดับเยาวชนและผู้สูงอายุ พร้อมทั้งมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้จะเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

อาเซียนตื่นตัวเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นไทยล้าหลังเวียดนาม ในส่วนของการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลนั้น ทางการประชุมเสนอให้มีการสร้างแพลตฟอร์มที่มีความสามารถในการแข่งขัน และเป็นของคนไทย เช่น แพลตฟอร์มด้านการเกษตร ท่องเที่ยว และสุขภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มเหล่านี้จะต้องคำนึงถึงความง่ายในการใช้งานและการเข้าถึงที่เหมาะสมกับทุกคน

การระดมสมองในครั้งนี้ยังได้เสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนา Digital Government ซึ่งรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการให้บริการที่เป็นมิตรกับประชาชน (Citizen-Centric) โดยการรวมบริการต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้ง่ายขึ้น ผ่านระบบดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษานั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามความท้าทายในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และสามารถแข่งขันในระดับสากลได้

ในท้ายที่สุด การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ได้สร้างแนวทางและวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งหากรัฐบาลสามารถนำข้อเสนอแนะต่างๆ มาปรับใช้และดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยจะสามารถพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่มีความยั่งยืนและสามารถแข่งขันได้ในระดับโลกอย่างแน่นอน

การประชุมในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้ไปในทิศทางที่ถูกต้องและมั่นคงในอนาคต