นายเธียรชัย ณ นคร ประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าไทยเผชิญความเสี่ยงในการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น โดยตามข้อมูลจาก Kaspersky ผู้ให้บริการโปรแกรมแอนตี้ไวรัสชั้นนำ ระบุว่า มีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยกว่า 200,000 ตัวที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี แม้บางเหตุการณ์จะมีการรั่วไหลของข้อมูลแล้ว แต่ขนาดความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้
สถานการณ์การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลมีความซับซ้อน แม้บางองค์กรในไทยจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่หลายแห่งก็ยังตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังรวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกขโมยไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การขายต่อในตลาดมืด
โดยปรากฎการณ์ที่องค์กรธุรกิจชั้นนำในไทยถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไล่เลี่ยกันในเดือนเมษายน เริ่มจาก ไปรษณีย์ไทย , บางจาก, โฮมโปร ซึ่งพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าถูกเปิดเผย ซึ่ง สคส. ต้องมาตรวจสอบว่าข้อมูลถูกนำมาเปิดเผยเกิดจากความผิดพลาดของคนภายในองค์กร หรือ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ ซึ่งถ้าเกิดจากคนภายในองค์กร องค์กรนั้นก็ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ถ้าเกิดจากระบบรักษาความปลอดภัย องค์กรก็ต้องมีปรับปรุงระบบให้มีความแข็งแรงปลอดภัย
นายเธียรชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเร่งสำคัญที่ทำให้องค์กร มีการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล มากขึ้น เช่นเดียวกับประชาชน ตระหนักรู้เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้นเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ