ประธานาธิบดี "ทรัมป์“ เชื่อ Apple สามารถผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ได้

09 เม.ย. 2568 | 10:03 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2568 | 10:15 น.

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ “มั่นใจอย่างยิ่ง” ว่า Apple สามารถผลิต iPhone และอุปกรณ์อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาได้

โฆษกทำเนียบขาว แครอลีน เลวิตต์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้  เมื่อถูกถามว่าทรัมป์คิดหรือไม่ว่าการผลิต iPhone เป็นเทคโนโลยีที่สามารถย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ ได้ เลวิตต์ตอบว่า “แน่นอน ท่านเชื่อว่าเรามีแรงงาน มีทรัพยากร และมีศักยภาพที่จะทำได้”

ประธานาธิบดี \"ทรัมป์“ เชื่อ Apple สามารถผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ได้ พร้อมอ้างอิงถึงการลงทุนมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ Apple ประกาศเมื่อต้นปี Apple ลงทุนในสหรัฐฯ ไปถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ถ้า Apple ไม่คิดว่าสหรัฐฯ จะทำได้ พวกเขาคงไม่ลงทุนก้อนใหญ่ขนาดนี้

ทรัมป์วางแผนจะเก็บภาษีนำเข้าจำนวนมากจากประเทศจีน เวียดนาม ไทย อินเดีย สหภาพยุโรป และประเทศอื่น ๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน เขาอ้างว่า หากบริษัทอย่าง Apple ไม่ต้องการจ่ายภาษี พวกเขาควรย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่ว่า Apple สามารถย้ายห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนอย่างมากมายกลับมาสหรัฐฯ ได้แทบจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วแล้ว สหรัฐฯ เองก็อาจไม่สามารถหาแรงงานที่มีทักษะเพียงพอได้

ทิม คุก CEO ของ Apple เคยกล่าวในปี 2017 ว่า เหตุผลที่ผลิต iPhone ในจีนไม่ใช่เพราะค่าแรงถูก แต่เป็นเพราะ "ทักษะ" ที่ประเทศจีนมีอยู่ในระดับสูงและกระจุกตัวในพื้นที่เดียวกัน

เขาอธิบายว่า "ผลิตภัณฑ์ของเราต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนมาก และจีนมีความชำนาญด้านเครื่องมือระดับสูงมาก หากจัดประชุมวิศวกรด้านเครื่องมือในสหรัฐฯ เราอาจหาคนมาเข้าร่วมได้ไม่กี่คน แต่ในจีน เราสามารถรวมคนได้เท่ากับสนามฟุตบอลหลายสนาม"

นายฮาวเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ก็แสดงความคิดเห็นในแนวเดียวกัน โดยกล่าวว่า ความคิดที่ว่า iPhone จะถูกผลิตในอเมริกานั้น “เป็นแค่ภาพฝัน” เขากล่าวว่าการมี “กองทัพคนงานนับล้านที่ขันสกรูเล็ก ๆ ให้ iPhone” ไม่สามารถเกิดขึ้นในอเมริกาได้ บ่งชี้ว่าเขาและทรัมป์อาจไม่เข้าใจห่วงโซ่การผลิตของ Apple อย่างแท้จริง

เว็บไซต์ 404 Media ระบุว่า Apple มีซัพพลายเออร์จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และยังมีแร่หายากที่มาจาก 79 ประเทศอีกด้วย ซึ่งบางส่วนไม่สามารถขุดได้ในสหรัฐฯ แม้ Apple จะประกอบเครื่องในสหรัฐฯ ได้ แต่ก็ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนทั้งหมดในประเทศเดียวได้ และแม้ว่าจะจำกัดแค่ "การประกอบ" ก็ยังต้องการแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งสหรัฐฯ ยังขาดอยู่ แถมค่าครองชีพและค่าแรงในสหรัฐฯ ยังสูงกว่าประเทศอื่น ๆ มาก ทำให้ iPhone ที่ผลิตในอเมริกาจะมีราคาสูงจนน่าตกใจ

แม้ Apple ยังไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษีนำเข้า แต่บริษัทได้เริ่มกักตุนสินค้า และหันไปนำเข้าสินค้าจากอินเดีย ซึ่งมีภาษีต่ำกว่า เพื่อช่วยลดผลกระทบ

แม้จะลงทุนในสหรัฐฯ 500,000 ล้านดอลลาร์ แต่เงินก้อนนั้นจะใช้สำหรับผลิตเซิร์ฟเวอร์ในระบบคลาวด์ของ Apple ไม่ใช่ iPhone เพราะเซิร์ฟเวอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการต่ำ และไม่ใช่สินค้าที่ต้องขายให้ผู้บริโภคโดยตรง

ในสมัยแรกที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง Apple เคยผลิต Mac Pro ที่รัฐเท็กซัส ซึ่งถือว่าไม่ประสบความสำเร็จนัก Apple หาซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นได้ยาก ต้องนำเข้าชิ้นส่วน ทำให้ล่าช้าและมีต้นทุนสูง และยังหาคนทำงานที่มีทักษะเฉพาะทางได้ยากอีกด้วย

เมื่อวานนี้ ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 54% กับสินค้าจากจีน แต่วันนี้เขาเพิ่มอีก 50% ทำให้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ สินค้านำเข้าจากจีนจะต้องเสียภาษีรวม 104%

ที่มา : macrumors