Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชสายลุย จอใหญ่ แบตอึด

07 ก.ย. 2565 | 18:34 น.

Apple เผยโฉมดีไซน์ใหม่ Apple Watch Ultra พร้อมด้วยความสามารถที่ล้ำสุดๆ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม

Apple เปิดตัว Apple Watch Ultra ในดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตา พร้อมหลากหลายคุณสมบัติที่สร้างมาสำหรับกิจกรรมที่เน้นความทนทานของร่างกาย การสำรวจ และการผจญภัย Apple Watch Ultra มาในตัวเรือนไทเทเนียม 49 มม. และด้านหน้าแบบผลึกแซฟไฟร์ที่แบนเรียบ เผยให้เห็นจอภาพ Apple Watch ที่ใหญ่และสว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งยังมีปุ่มการทำงานที่ปรับแต่งได้สำหรับเรียกใช้หลายคุณสมบัติที่มีประโยชน์ได้ในทันที

Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชสายลุย จอใหญ่ แบตอึด

นอกจากนี้ Apple Watch Ultra ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดในบรรดา Apple Watch โดยใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานปกติ และมีการตั้งค่าประหยัดพลังงานเพิ่มมาใหม่ ซึ่งสามารถยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุดถึง 60 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับกิจกรรมที่กินเวลาหลายวัน2 ส่วนหน้าปัดนาฬิกาเวย์ไฟน์เดอร์นั้นได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับจอภาพ Apple Watch Ultra ที่ใหญ่ขึ้นโดยมีเข็มทิศที่รวมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าปัด รวมถึงพื้นที่สำหรับใส่กลไกหน้าปัดได้สูงสุด 8 แบบ ยิ่งไปกว่านั้น Apple Watch Ultra ยังมาพร้อม 3 สายใหม่ ได้แก่ Trail Loop, Alpine Loop และ Ocean Band ซึ่งล้วนมีดีไซน์แบบเฉพาะตัวที่ช่วยคงความแน่นกระชับและใส่สบายสำหรับการผจญภัยทุกแนว

"เราได้รับแรงบันดาลใจจากนักสำรวจและนักกีฬาทั่วโลกในการสร้าง Apple Watch แนวใหม่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ในขั้นเอ็กซ์ตรีม เรียกได้ว่าเป็น Apple Watch ที่สมบุกสมบันและมากความสามารถที่สุดเท่าที่เคยมีมา" Jeff Williams ซึ่งเป็น Chief Operating Officer ของ Apple กล่าว "Apple Watch Ultra คือเครื่องมืออเนกประสงค์ที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปกับการผจญภัย กิจกรรมที่เน้นความทนทานของร่างกาย และการสำรวจ"

 

ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น และแกร่งขึ้น

Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชสายลุย จอใหญ่ แบตอึด

Apple Watch Ultra ทำมาจากไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างน้ำหนัก ความทนทาน และการทนต่อการกัดกร่อน โดยที่ตัวเรือนยกสูงขึ้นมาล้อมรอบด้านหน้าแบบผลึกแซฟไฟร์ที่แบนเรียบเพื่อปกป้องจอภาพ Retina ซึ่งมีความสว่างสูงสุด 2,000 นิต หรือสว่างกว่าจอภาพของ Apple Watch ทุกรุ่นถึง 2 เท่า และยังมีปุ่มการทำงานเพิ่มมาใหม่ในสีส้มสากลที่มองเห็นเด่นชัด ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ง่ายเพื่อเรียกใช้หลายๆ คุณสมบัติในทันที อย่างการออกกำลังกาย จุดอ้างอิงเข็มทิศ การติดตามการเดิน และอีกมากมาย

Apple Watch Ultra มาพร้อมไมโครโฟน 3 ตัวที่เพิ่มคุณภาพเสียงขณะคุยโทรศัพท์ให้ดีขึ้นมากในทุกสภาพแวดล้อม พร้อมด้วยอัลกอริทึมบีมฟอร์มมิ่งแบบปรับตามสภาวะที่ใช้ไมโครโฟนเพื่อจับเสียงพูดพร้อมๆ กับลดเสียงรอบข้าง ช่วยให้เสียงมีความชัดเจนจนต้องทึ่ง และเมื่ออยู่ในที่ที่มีลมแรง Apple Watch Ultra ก็จะใช้อัลกอริทึมสำหรับลดเสียงรบกวนจากลม ร่วมกับการเรียนรู้ของระบบเพื่อทำให้เสียงขณะคุยโทรศัพท์นั้นฟังชัด

 

สายแบบใหม่ๆ ออกแบบมาสำหรับกิจกรรมเอาท์ดอร์

Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชสายลุย จอใหญ่ แบตอึด

สายแบบ Trail Loop เป็นสาย Apple Watch ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา และออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักกีฬาที่เน้นความทนทานของร่างกายและนักวิ่ง ตัวสายทำมาจากผ้าถักน้ำหนักเบาที่ทั้งนุ่มและยืดหยุ่น จึงสามารถยืดให้รัดแน่นได้พอดี พร้อมแถบดึงที่ออกแบบมาให้ปรับสายได้สะดวกรวดเร็วและง่ายดาย

 

สายแบบ Alpine Loop สร้างมาสำหรับนักสำรวจโดยใช้กระบวนการถักทอที่รวมผ้าสองชั้นเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเนื้อเดียวในแบบที่ไม่ต้องมีรอยตะเข็บ ในขณะที่ห่วงคล้องด้านบนมีเส้นใยความแข็งแรงสูงสอดแทรกอยู่ทั่ว ช่วยให้ปรับสายได้อย่างยืดหยุ่น และคล้องเข้ากับตัวยึดที่เป็นตะขอรูปตัว G ได้แน่นกระชับ

 

สายแบบ Ocean Band ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำและการดำน้ำเชิงนันทนาการ พร้อมตัวล็อคไทเทเนียมและห่วงสปริงที่เข้ากันอย่างลงตัว ตัวสายทำมาจากยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์ที่ยืดหยุ่น ซึ่งจะยืดออกและรัดเข้ากับรูปทรงแบบท่ออย่างแน่นกระชับ นอกจากนี้สายแบบ Ocean Band ยังมีปลายสายแบบยาวพิเศษให้เลือกซื้อเพิ่ม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ใส่ทับเว็ทสูทได้สบาย

Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชสายลุย จอใหญ่ แบตอึด

กีฬาที่เน้นความทนทานและนักกีฬา

 

Apple Watch Ultra คือเครื่องมือที่เหนือชั้นสำหรับนักกีฬาที่เน้นความทนทานของร่างกาย หรือผู้ที่มุ่งมั่นจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เพราะเป็นครั้งแรกที่ Apple Watch มาพร้อม GPS แบบสองคลื่นความถี่ที่แม่นยำ ซึ่งรวม GPS ย่าน L1 และย่านความถี่ล่าสุดอย่าง L5 เข้าด้วยกัน พร้อมด้วยอัลกอริทึมใหม่สำหรับการระบุตำแหน่ง ทั้งหมดนี้ทำให้ Apple Watch Ultra มี GPS ที่ถูกต้องที่สุดเท่าที่ Apple Watch เคยมีมา และสามารถแสดงระยะทาง เวลาเฉลี่ยต่อระยะทาง และเส้นข้อมูลสำหรับการฝึกซ้อมและแข่งขันได้อย่างแม่นยำที่สุด

 

Apple Watch Ultra มีจอภาพที่ใหญ่ขึ้นและสว่างขึ้นในดีไซน์ที่สมบุกสมบัน จึงเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ตอบโจทย์ของนักผจญภัยและนักสำรวจในหลากหลายสภาพแวดล้อม ตั้งแต่ปกติทั่วไปจนถึงขั้นเอ็กซ์ตรีม และยังมีแอปเข็มทิศที่ออกแบบมาใหม่หมดใน watchOS 9 ที่จะดึงข้อมูลขึ้นมาแสดงมากขึ้นใน 3 มุมมองที่แตกต่างกัน แอปสามารถแสดงมุมมองแบบผสมที่แสดงทั้งหน้าปัดเข็มทิศแบบอนาล็อกพร้อมๆ กับมุมมองแบบดิจิทัลได้ เมื่อหมุน Digital Crown ผู้ใช้จะเห็นมุมมองอื่นๆ เพิ่มเติมที่แสดงละติจูด ลองจิจูด ระดับความสูง และความชัน รวมทั้งมุมมองสำหรับการใช้เข็มทิศนำทางที่แสดงจุดอ้างอิงเข็มทิศและการติดตามการเดิน

Apple Watch Ultra สมาร์ทวอชสายลุย จอใหญ่ แบตอึด

คุณสมบัติจุดอ้างอิงเข็มทิศหรือ Compass Waypoints เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วในการปักตำแหน่งหรือจุดสนใจลงในแอปโดยตรง เพียงแค่กดปุ่มการทำงานหรือแตะไอคอนจุดอ้างอิงเข็มทิศเพื่อวางจุดอ้างอิงที่สามารถแก้ไขได้โดยการแตะไอคอนที่ปรากฏขึ้นมา และยังมีกลไกหน้าปัด "จุดอ้างอิงเข็มทิศ" ที่จะอัปเดตทั้งทิศทางของจุดอ้างอิงและระยะทางโดยประมาณอยู่อย่างต่อเนื่องในแบบเรียลไทม์

 

คุณสมบัติการติดตามการเดินใช้ข้อมูล GPS เพื่อสร้างเส้นทางที่ผู้ใช้เดินผ่านมา ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีที่หลงทิศหรือหลงทาง และต้องการความช่วยเหลือในการเดินย้อนกลับเส้นทางเดิม อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าให้คุณสมบัตินี้ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณได้ด้วย เพียงกดปุ่มการทำงานครั้งเดียว ผู้ใช้สามารถวางจุดอ้างอิงเข็มทิศได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเริ่มหรือดูเส้นทางเดินย้อนกลับก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเสียงไซเรนดัง 86 เดซิเบล ซึ่งออกแบบมาสำหรับเหตุฉุกเฉินในกรณีที่ผู้ใช้หลงทางหรือได้รับบาดเจ็บ และสามารถช่วยเรียกความสนใจจากตำแหน่งที่ผู้ใช้อยู่ได้ โดยเสียงไซเรนนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะดังเป็นรูปแบบซ้ำๆ สลับกันสองแบบ และยังได้นานหลายชั่วโมงด้วย รูปแบบแรกบ่งบอกถึงการประสบเหตุร้าย ในขณะที่รูปแบบที่สองเป็นการเลียนเสียงสัญญาณ SOS ที่ใช้กันในระดับสากล และสำหรับการสะพายเป้เที่ยวหลายวัน ยังสามารถยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 60 ชั่วโมง ด้วยโหมดประหยัดพลังงาน บวกกับอีกหนึ่งการตั้งค่าประหยัดพลังงานที่จะลดความถี่ของ GPS และการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

 

Apple Watch Ultra ได้รับการออกแบบมาสำหรับกีฬาทางน้ำ รวมถึงกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมต่างๆ อย่างไคท์เซิร์ฟและเวคบอร์ด และการดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการถึงความลึก 40 เมตรด้วยแอป Oceanic+ ใหม่ และ Apple Watch Ultra ก็ได้รับการรับรอง WR100 จึงพร้อมสำหรับการผจญภัยในโลกใต้น้ำ นอกจากนี้ Apple Watch Ultra ยังได้รับการรับรอง EN13319 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงตัววัดความลึกที่นักดำน้ำเชิงนันทนาการทั่วโลกไว้ใจ

 

Apple Watch Ultra มาพร้อมแอปความลึกที่ใช้ประโยชน์จากตัววัดความลึกใหม่ และยังออกแบบมาให้มีอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย เพียงแค่เหลือบมองแอปความลึก ก็สามารถดูเวลา ความลึกปัจจุบัน อุณหภูมิน้ำ ระยะเวลาใต้น้ำ และความลึกสูงสุดที่ลงไปถึง ทั้งยังสามารถตั้งโปรแกรมปุ่มการทำงานเพื่อใช้เปิดแอปความลึกได้ทันที

 

แอป Oceanic+ ใหม่ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Huish Outdoors ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยและน่าเชื่อถือสำหรับการดำน้ำเชิงนันทนาการ และนี่คือแอปที่จะเปลี่ยน Apple Watch Ultra ให้กลายเป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์มากความสามารถ ซึ่งใช้อัลกอริทึมการลดความกดของ Bühlmann และยังมาพร้อมการวางแผนดำน้ำ ค่าวัดการดำน้ำที่อ่านง่าย การเตือนทางภาพและการสั่น ระยะเวลาที่จะไม่ติดดีคอมเพรสชั่น การเปลี่ยนระดับขึ้น รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับเซฟตี้สต็อป โดยที่แอปนี้จะพร้อมให้ดาวน์โหลดจาก App Store ภายในปีนี้ นอกจากนี้แอป Oceanic+ ยังมีโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล พร้อมด้วยรายงานสภาพต่างๆ ในปัจจุบันสำหรับการดำน้ำและข้อมูลประจำถิ่น รวมถึงสมุดบันทึกการดำน้ำที่แชร์กับเพื่อนๆ และครอบครัวได้ และยังซิงค์กับ iPhone โดยอัตโนมัติด้วย

 

"เรารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่ได้ร่วมมือกับ Apple เพื่อนำเอาความเชี่ยวชาญของเราในด้านสกูบาที่มีชื่อเสียงระดับโลก มารวมเข้ากับความสามารถที่ไม่เหมือนใครของ Apple Watch Ultra เพื่อเปลี่ยนนาฬิกาที่ใส่อยู่ทุกวันให้กลายเป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์สุดล้ำ" Mike Huish ซึ่งเป็น CEO ของ Huish Outdoors กล่าว "แอป Oceanic+ จะพาผู้ใช้ Apple Watch Ultra ไปสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นขณะดำน้ำสกูบา"

 

Apple Watch Ultra มึครบทุกคุณสมบัติในด้านการเชื่อมต่อ กิจกรรม และสุขภาพที่ทำให้ Apple Watch เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ขายดีที่สุดในโลก ตั้งแต่การติดตามการเต้นของหัวใจและแอป ECG และแอป Blood Oxygen จนถึงวงแหวนกิจกรรม และแอปทำสมาธิ พร้อมด้วยคุณสมบัติอื่นๆ ในด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการนำทาง

 

Apple Watch Ultra มีความสามารถใหม่สุดล้ำในการติดตามค่าอุณหภูมิที่ให้ข้อมูลด้านสุขภาพของผู้หญิงอย่างละเอียดยิ่งขึ้น โดยใช้ดีไซน์แบบสองเซ็นเซอร์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งช่วยลดความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอกและจากร่างกายเอง ยิ่งกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถดูการคาดคะเนช่วงไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากความสามารถใหม่ๆ เหล่านี้เพื่อช่วยในเรื่องการวางแผนครอบครัว6 และการติดตามค่าอุณหภูมิยังช่วยปรับปรุงการคาดคะเนรอบเดือนให้ดียิ่งขึ้นด้วยสำหรับผู้ใช้ที่มีรอบเดือน7 นอกจากนี้ iOS 16 และ watchOS 9 ยังช่วยให้ผู้ใช้คุณสมบัติการติดตามรอบเดือนทุกคนสามารถรับการแจ้งเตือนหากประวัติรอบเดือนที่บันทึกไว้แสดงถึงความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจเป็นอาการบ่งชี้ปัญหาด้านสุขภาพบางอย่าง

 

Apple Watch สามารถตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรงด้วยคุณสมบัติการตรวจจับการชนกันหรือ Crash Detection ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวใหม่ และอัลกอริทึมแบบรวมเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย เมื่อ Apple Watch ตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะตรวจสอบกับผู้ใช้และโทรหาบริการฉุกเฉินหากพวกเขาไม่ตอบสนองหลังจากนับถอยหลังเป็นเวลา 10 วินาที ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินจะได้รับตำแหน่งอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะแชร์กับรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของผู้ใช้ด้วย

 

Apple Watch Ultra กับสิ่งแวดล้อม

 

Apple Watch Ultra ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม อย่างทองคำรีไซเคิลในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ Apple Watch รวมถึงแร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น และทังสเตนรีไซเคิล 100% ใน Taptic Engine ส่วนกระจกจอภาพนั้นปลอดสารอาร์เซนิก และ Apple Watch Ultra ก็ปลอดสาร BFR, PVC และเบริลเลียม บรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch ไม่มีพลาสติกหุ้มชั้นนอกและใช้เยื่อไม้เป็นหลักอย่างน้อย 98% จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025

 

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

 

Apple Watch Ultra จะพร้อมให้สั่งซื้อในเร็วๆ นี้ในราคา 31,900 บาท

watchOS 9 จะพร้อมใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 4 และใหม่กว่า ในวันจันทร์ที่ 12 กันยายน และต้องใช้กับ iPhone 8 หรือใหม่กว่า และ iPhone SE (รุ่นที่ 2) หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 16 คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในอุปกรณ์บางเครื่องและในบางภูมิภาค