การ์ทเนอร์แนะองค์กรรับมือ 10 เทรนด์วิเคราะห์-เก็บข้อมูล

30 มี.ค. 2564 | 04:06 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

 

การ์ทเนอร์ อิงค์ ชี้ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์และจัดเก็บข้อมูลปี 2564 เพื่อช่วยองค์กรรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ความผันผวนและเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจในปีนี้

นางริต้า ซัลแลมลัม รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ เปิดเผยว่าความปั่นป่วนจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของ COVID-19 ต่อองค์กรทั่วโลกบังคับให้ผู้บริหารที่ดูแลด้านการวิเคราะห์และจัดเก็บข้อมูล (D&A) ต้องมีเครื่องมือและกระบวน การต่างๆ ให้พร้อมเพื่อให้ระบุถึงแนวโน้มเทคโนโลยีหลักๆ และจัดลำดับความสำคัญของแต่ละความท้าทายที่มีผลกระทบมากที่สุดต่อความได้เปรียบในการแข่งขัน”

ทั้งนี้การ์ทเนอร์ได้คาดการณ์ 10 แนวโน้มเทคโนโลยีที่ผู้บริหาร D&A ควรใช้เพื่อประกอบการพิจารณาลงทุนในภารกิจสำคัญต่างๆ เพื่อเร่งขีดความสามารถในการระบุและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลง รวมถึงการตอบสนอง ประกอบด้วย

เทรนด์ที่ 1: AI ที่ฉลาดขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และปรับขนาดได้ โดยบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้พฤติกรรมของเครื่องหรือแมชชีน เลิร์นนิ่ง (ML) ที่มากขึ้น ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องนำเทคนิคใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อพัฒนาโซลูชั่น AI ให้ฉลาดขึ้น โดยใช้ปริมาณข้อมูลน้อยลง และมีความรับผิดชอบด้านจริยธรรมและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

เทรนด์ที่ 2: ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เรียบเรียงได้สถาปัตยกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเปิดและมีการจัดการแบบคอนเทนเนอร์ทำให้ความสามารถในการวิเคราะห์ต่างๆ มาประกอบกันได้มากขึ้น โดยข้อมูลและการวิเคราะห์ที่รวบรวมประกอบกันนี้ใช้ประโยชน์จากส่วนประกอบต่างๆ ของข้อมูลการวิเคราะห์และโซลูชัน AI เพื่อสร้างแอพพลิเคชันอัจฉริยะที่มีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วย ให้ผู้บริหาร D&A เชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกเข้ากับการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

การ์ทเนอร์แนะองค์กรรับมือ 10 เทรนด์วิเคราะห์-เก็บข้อมูล

ริต้า ซัลแลมลัม

 

 

เทรนด์ที่ 3: Data Fabric เป็นรากฐานสำคัญการสร้างหรือแปลงข้อมูลเป็นแบบดิจิทัลและความมีอิสระของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นปัจจัยให้ผู้บริหาร D&A เพิ่มการใช้ data fabric เพื่อช่วยจัดการกับความหลากหลาย การกระจาย การปรับขนาดและความซับซ้อนในสินทรัพย์ข้อมูลขององค์กรไปสู่ระดับที่สูงขึ้น การปรับใช้และการใช้ข้อมูลหลากหลายเพื่อลดเวลาในการรวบรวมลง 30% การปรับใช้ 30% และการบำรุงรักษา 70%

เทรนด์ที่ 4: จากวิเคราะห์ด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ไปสู่ข้อมูลขนาดเล็กและข้อมูลที่มีขอบเขตกว้างขึ้น การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รูปแบบการนำเทคโนโลยี ML และ AI มาใช้กับข้อมูลเปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันการตัดสินใจโดยมนุษย์และระบบ AI มีความซับซ้อนและมีความต้องการมากขึ้นทำให้ผู้บริหารด้าน D&A ต้องมีข้อมูลที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น

 

เทรนด์ที่ 5: XOps รูปแบบต่างๆ เป้าหมายของ XOps ซึ่งรวมถึง DataOps, MLOps, ModelOps และ PlatformOps คือการบรรลุประสิทธิภาพและการประหยัดต้นทุนต่อหน่วย (Economies of Scale) โดยใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ DevOps และให้ความมั่นใจเรื่องความน่าเชื่อถือ การนำกลับมาใช้ใหม่และการทำซํ้าได้ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยลดความซํ้าซ้อนของเทคโนโลยีกระบวน การและการเปิดใช้ระบบออโตเมชั่น

เทรนด์ที่ 6: การตัดสินใจทางวิศวกรรมแบบอัจฉริยะ ที่ไม่เพียงแต่ใช้กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคลเท่านั้น แต่ยังใช้จัดลำดับของการตัดสินใจ โดยจัดหมวดหมู่ไว้ในกระบวนการทางธุรกิจ หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกันแบบฉุกเฉินและผลกระทบที่ตามมา เมื่อกระบวนการตัดสินใจมีความเป็นอัตโนมัติและมีความเสมือนจริงมากขึ้นก็จะเปิดโอกาสให้ผู้บริหาร D&A ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ทำซํ้าได้ มีความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับได้ มากขึ้น

เทรนด์ที่ 7: ข้อมูลและการวิเคราะห์ คือ ฟังก์ชันหลักทางธุรกิจ D&A กำลังเปลี่ยนไปเป็นภารกิจหลักของธุรกิจ จากเดิมที่เป็นกิจกรรมรองในอดีต ในสถานการณ์เช่นนี้ D&A จะกลายเป็นสินทรัพย์ทางธุรกิจที่ต้องใช้ร่วมกันซึ่งสอดคล้องกับผลลัพธ์ทางธุรกิจและโมเดล D&A แบบไซโลต้องล่มสลายลง เนื่องจากการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นระหว่างทีม D&A ส่วนกลางและทุกหน่วยงานในองค์กร

 

เทรนด์ที่ 8: กราฟสัมพันธ์กับทุกสิ่งทุกอย่าง กราฟเป็นรากฐานของข้อมูลที่ทันสมัยและมอบความสามารถในการวิเคราะห์เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสถานที่ สิ่งของ เหตุการณ์และตำแหน่ง ของสินทรัพย์ข้อมูลหลากหลาย การ์ทเนอร์ คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 จะมีการใช้เทคโนโลยีกราฟที่จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วทั่วทั้งองค์กรมากถึง 80% ของนวัตกรรมข้อมูลและการวิเคราะห์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2564

เทรนด์ที่ 9: ผู้บริโภคเสมือนที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ใช้แดชบอร์ดและสำรวจข้อมูลแบบแมนนวลที่ได้รับการกำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง เวลาที่เสียไปกับการทำงานบนแดชบอร์ดที่กำหนดไว้ก่อนแล้วนั้นจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลเชิงลึกอัตโนมัติ โต้ตอบได้ เข้าถึงได้จากอุปกรณ์มือถือและยังประมวลผลเชิงลึกแบบไดนามิกที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และสามารถนำส่งไปยังจุดที่ต้องการใช้ข้อมูลนั้น

เทรนด์ที่ 10: ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ Edge ข้อมูล การวิเคราะห์และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สนับสนุน D&A ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบลํ้าสมัยขึ้นใกล้ชิดกับสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงและภาย นอกขอบเขตของไอที การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2566 มากกว่า 50% ของความรับผิดชอบหลักของผู้บริหารด้านข้อมูลและการวิเคราะห์จะประกอบด้วยข้อมูลที่สร้าง จัดการและวิเคราะห์ในสภาพแวดล้อมที่ลํ้าสมัย 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,666 หน้า 16 วันที่ 1 - 3 เมษายน 2564