บีคอนลงทุนรอบซีรีส์ A ธุรกิจเวลท์เทค Robowealth

26 ม.ค. 2564 | 19:00 น.

บีคอน วีซี บริษัทเงินร่วมลงทุนกสิกรไทย ประกาศลงทุนรอบ ซีรีส์ A ใน Robowealth สตาร์ทอัพด้าน Wealth Tech ปักธงนำคนไทยเข้าสู่ตลาดทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งแก้ 3 อุปสรรคที่ทำให้คนไทยไม่กล้าลงทุน คือ ไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ และไม่มีเงินเพียงพอ ตั้งเป้าปี 64 มียอดรวมมูลค่าการลงทุนรวม 30,000 ล้านบาท

 

 

นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด เปิดเผยว่า บีคอน วีซี บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย เลือกเข้าร่วมลงทุนรอบ ซีรีส์ A ใน Robowealth ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีด้านการลงทุน ที่มีแอพพลิเคชันด้านการลงทุนที่หลากหลาย จึงเป็นการร่วมผนึกกำลังสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เพื่อให้สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นและเร็วขึ้น รวมทั้งเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของธนาคาร โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงินโดยทั่วไปยังอยู่ในระดับตํ่า ดังนั้นการมองหาเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ คัดเลือกกองทุน และบริหารการลงทุนให้สอดคล้องทันสถานการณ์ จึงเป็นโอกาสสำคัญของการเลือกลงทุน ที่จะสร้างผลตอบแทนได้แตกต่างไปจากเดิม

 

ชลเดช เขมะรัตนา, ธนพงษ์ ณ ระนอง

 

 

“วงการ Fintech ในไทยนั้นถือว่าได้มีการเริ่มต้นมานานแล้ว แต่ความน่าสนใจของวงการ Fintech ในเมืองไทยนั้น คือบริษัทที่มีการเติบโตได้ดี ไม่ใช่บริษัทที่มี Business Model และ Offering Model เพื่อมา Disrupt สถาบันการเงิน แต่เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการทำงานกับสถาบันการเงิน โดยการนำองค์ความรู้ใหม่ๆ หรือแนวทางในการสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าในแบบใหม่ๆ มาเสริมกับจุดแข็งที่สถาบันการเงินมี เช่น ฐานลูกค้า ความปลอดภัยในการให้บริการ เพื่อ ก่อให้เกิดการเติบโตแบบเกื้อหนุนกัน”**

 

นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท โรโบเวลธ์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า Robowealth มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินของไทยให้มีความทันสมัย ส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีโอกาสได้เริ่มต้นลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันประเทศไทยมีนักลงทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนรวมและตลาดหลักทรัพย์ เพียงไม่ถึง 5% จากจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคนทั่วประเทศแสดงให้เห็นว่าประชากรกว่ามีประชากรกว่า 95% ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดทุนได้ วิสัยทัศน์ของ Robowealth คือการร่วมมือกันสร้างระบบนิเวศน์ด้านการเงินที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Empower Future Financial Ecosystem” ผ่านบริการทั้งในรูปแบบ Business to Consumer (B2C) และ Business to Business (B2B) เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเริ่มต้นสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน โดยมุ่งแก้ไขอุปสรรค (Pain Point) สำคัญที่ทำให้คนไทยไม่กล้าลงทุน ได้แก่ ไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ และไม่มีเงินเพียงพอ พร้อมทั้งตั้งเป้ามียอดรวมมูลค่าการลงทุนรวม 30,000 ล้านบาท ในปี 2564

 

ปัจจุบัน Robowealth มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและนำเสนอ 2 แอพพลิเคชันด้านการลงทุนยอดนิยม ภายใต้บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท โดยที่ทั้ง 2 แอพพลิเคชันต่างมีจุดยืนที่ชัดเจนในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เริ่มด้วย odini ซึ่งเป็น Robo-advisor รายแรกในประเทศไทย เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2561 จับกลุ่มคนทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ โดยมี Robo-advisor ปรับพอร์ตให้ทันต่อสถานการณ์ และสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ พร้อมให้อิสระในการเลือกลงทุนเป็นเงินก้อน หรือทยอยลงทุนเป็นรายเดือน (DCA: Dollar Cost Average) โดยที่ Robowealth ได้เพิ่มเติมบริการ odini BLACK เข้าไปในแอพพลิเคชันเดิม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่ม Mass Affluent และแอพพลิเคชัน FinVest ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2563 เพื่อให้บริการคัดเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจ ในรูปแบบ Thematic Investment เน้นการให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย คมชัด และ “ชี้เป้า” การลงทุนอย่างเป็นกลาง ผ่านผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์การลงทุนมืออาชีพ ภายใต้คณะกรรมการคัดเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ช่วยกันคัดเลือกกองทุนจาก บลจ.ชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดย FinVest ถือเป็นความร่วมมือของ Robowealth กับธนาคารกสิกรไทยและ Lu International บริษัทฟินเทคระดับโลก 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,647 หน้า 16 วันที่ 24 - 27 มกราคม 2564