สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ดำเนินการเร่งรัดปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งนอกจากจะจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปแล้วยังมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่ผ่านมา สตช., สำนักงาน กสทช. และกรมทรัพย์สินฯ ได้มีการดำเนินการร่วมกันแล้ว แต่กระบวนการดำเนินการต้องส่งเรื่องไปที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เพื่อขอออกหมายศาล ทำให้การดำเนินงานต้องใช้เวลานานถึง 7-8 เดือน ในการออกหมายศาล ดังนั้น สตช., สำนักงาน กสทช. และกรมทรัพย์สินฯ จึงได้หารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางปิดกั้นไม่ให้เกิดความเสียหายกับผู้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ โดยขั้นตอนจากนี้ผู้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์สามารถร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสอบสวน ซึ่งจะมาประจำที่
"ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และระงับการเผยแพร่การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและการกระทำความผิดอื่น ๆ ออนไลน์" ซึ่งตั้งในสำนักงาน กสทช. โดยเจ้าพนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ กสทช. ดำเนินการแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ให้ปิดกั้นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนการกระทำผิดเป็นเรื่องที่กระทรวงดีอีจะออกหมายศาลเรียกต่อไป ในขั้นแรกนี้จึงเป็นกระบวนการปิดกั้นเว็บไซต์ก่อน
พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้ร่วมกับ สตช. อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ โดยได้เชิญผู้แทนสถานฑูตสหรัฐฯ และญี่ปุ่น เข้าร่วมเพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารว่า ผู้ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สำนักงาน กสทช. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทุกวัน
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า รัฐบาลมีความจริงจังในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีการจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป และสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมดด้วย
การร่วมมือครั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ดำเนินการเร่งรัดปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งนอกจากจะจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปแล้วยังมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่ผ่านมา สตช. สำนักงาน กสทช. และกรมทรัพย์สินฯ ได้มีการดำเนินการร่วมกันแล้ว แต่กระบวนการดำเนินการต้องส่งเรื่องไปที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เพื่อขอออกหมายศาล ทำให้การดำเนินงานต้องใช้เวลานานถึง 7-8 เดือน ในการออกหมายศาล ดังนั้น สตช. สำนักงาน กสทช. และกรมทรัพย์สินฯ จึงได้หารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางปิดกั้นไม่ให้เกิดความเสียหายกับผู้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ โดยขั้นตอนจากนี้ผู้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์สามารถร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสอบสวน ซึ่งจะมาประจำที่
"ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และระงับการเผยแพร่การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและการกระทำความผิดอื่น ๆ ออนไลน์"
ซึ่งตั้งในสำนักงาน กสทช. โดยเจ้าพนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ กสทช. ดำเนินการแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ให้ปิดกั้นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนการกระทำผิดเป็นเรื่องที่กระทรวงดีอีจะออกหมายศาลเรียกต่อไป ในขั้นแรกนี้จึงเป็นกระบวนการปิดกั้นเว็บไซต์ก่อน
[caption id="attachment_363138" align="aligncenter" width="503"]
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.[/caption]
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. กล่าวว่า จากนี้นอกจากผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกปิดกั้นเว็บไซต์แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมดำเนินคดีกฎหมายฟอกเงินด้วย จึงขอให้หยุดการดำเนินการกระทำความผิด เพราะจะมีการนำกฎหมายฟอกเงินมาร่วมพิจารณา