zero-carbon

สุดเจ๋ง "บริโภคโปรตีนพืช" ดีต่อโลก ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก-ประหยัดน้ำ

Madre Brava เผยผลวิจัยการเปลี่ยนเนื้อสัตว์ 30% เป็นโปรตีนจากพืช ช่วยชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มผืนดินขนาดเท่าอินเดีย และประหยัดน้ำได้ 7.5 ล้านสระต่อปี

จากรายงานผลกระทบของการผลิตเนื้อสัตว์ที่ลดลงและการเปลี่ยนมาบริโภคโปรตีนจากพืชฉบับใหม่ ที่จัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัย Profundo ซึ่งได้รับมอบหมายจากกลุ่มสิ่งแวดล้อม Madre Brava องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการเปลี่ยนมารับประทานโปรตีนจากพืช แม้จะเป็นการบริโภคเพียงเล็กน้อยก็มีประโยชน์ต่อสภาพภูมิอากาศ ธรรมชาติ และน้ำเป็นอย่างมาก

การลดบริโภคเนื้อสัตว์ ช่วยชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเครื่องบินทั่วโลก เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมขนาดเท่าอินเดีย และประหยัดน้ำเทียบเท่ากับปริมาณน้ำในสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกหลายล้านสระทุกปี

รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า ในประเทศที่มีการบริโภคเนื้อสัตว์สูงกว่าระดับที่แนะนำ การทดแทนเนื้อวัว เนื้อหมู และไก่ 30% ด้วยอาหารทั้งมื้อและผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชชนิดใหม่นั้น อาจนำไปสู่การประหยัดสุทธิของ CO2e ได้ 728 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางทางอากาศทั่วโลกในปี 2565 เกือบทั้งหมด โดยทางองค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA ระบุว่า ในปี 2565 การบินทั่วโลกมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 784.45 ล้านตัน

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้มีพื้นที่เกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดเท่ากับอินเดีย ที่ดินที่กลับคืนสู่ธรรมชาติสามารถเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อดูดซับการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ และเนื่องจากการทำปศุสัตว์ต้องใช้น้ำจำนวนมหาศาล การเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืชเพียง 30% จะช่วยประหยัดน้ำได้ 18.9 ลูกบาศก์กิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำในสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก 7.5 ล้านสระทุกปี

บริโภค "โปรตีนพืช" ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก เพิ่มพื้นที่สีเขียว และประหยัดน้ำ - Madre Brava

วิกฤต 3 ประการ จากการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ส่งผลกระทบต่อโลก

Nico Muzi กรรมการผู้จัดการ Madre Brava ได้กล่าวถึงบริบทปัจจุบันของวิกฤต 3 ประการของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และการขาดแคลนน้ำ รวมถึงประโยชน์ของการเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืชเพียงเล็กน้อยว่ามีประโยชน์มากมาย อีกทั้งระบบอาหารในปัจจุบันนั้น สร้างแรงจูงใจในการผลิตและจำหน่ายเนื้อสัตว์อุตสาหกรรมจำนวนมหาศาล แทนที่จะเป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น

ทำให้จำเป็นต้องมีการพลิกกระแสเพื่อสุขภาพของผู้คน และสุขภาพของโลกขึ้น ทั้งนี้ ทางรัฐบาลและผู้ค้าปลีกอาหารสามารถมีบทบาทสำคัญในการรับรองว่า โปรตีนที่ยั่งยืนนั้นเป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุด และง่ายที่สุดสำหรับผู้บริโภคเมื่อทำธุรกิจร้านอาหาร

การเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืช 30% ทำให้สวัสดิภาพสัตว์ดีขึ้น การตัดไม้ทำลายป่าลดลง และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพได้

ในแง่ของสวัสดิภาพสัตว์ การเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืช 30% จะช่วยรักษาชีวิตของวัวได้ 100 ล้านตัว หมู 420 ล้านตัว และไก่มากกว่า 22 พันล้านตัวต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการไว้ชีวิตวัวทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน โดยทั่วไปการผลิตโปรตีนจากพืชจะใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการผลิตเนื้อสัตว์ ซึ่งช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างมาก

นอกจากนี้ การผลิตโปรตีนจากพืชใช้น้ำน้อยกว่ามาก ทำให้เกิดมลภาวะทางน้ำและอากาศน้อยลง รวมถึงลดความเสี่ยงของการดื้อยาปฏิชีวนะ ลดการระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน และลดภาระด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเนื้อแดงอีกด้วย

 

ขอบคุณที่มา : Madre Brava , รายงานผลกระทบของการผลิตเนื้อสัตว์ที่ลดลงและการเปลี่ยนมาบริโภคโปรตีนจากพืช