เปิดนโยบาย EV "สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์" เมื่อเศรษฐีน้ำมันตั้งเป้า EV 50% ปี 2050

02 ต.ค. 2566 | 01:30 น.

เปิดนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV "สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์" เมื่อเศรษฐีน้ำมันตั้งเป้ามี EV บนท้องถนน 50% ภายในปี 2050

อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่จากรถยนต์แบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV)  ประเทศทั่วโลกต่างก็มีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ประเภทนี้ พร้อมตั้งเป้าการใช้งานรถยนต์อนาคตภายใต้คอนเซปมลพิษเป็นศูนย์ ภายในปี 2030 โดยประเทศสหราชอาณาจักร ยุโรป สิงคโปร์ นอร์เวย์ เดนมาร์ค และไอซ์แลนด์ ตั้งเป้ารถยนต์ที่ออกขายใหม่ในตลาดทั้งหมดจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า  ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่น และจีนตั้งเป้าที่คล้ายคลึงกันเอาไว้ในปี 2035  (อ้างอิงจาก Global EV Outlook 2021, International Energy Agency)

เศรษฐกิจของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ UEA มีความมั่งคั่งมาจากน้ำมัน ปิโตเลียมและก๊าซธรรมชาติ แต่สิ่งนี้ไม่ได้หยุดยั้งผู้นำจากการเปิดตัว "นโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ" ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งของรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 50% ของยานพาหนะทั้งหมดบนถนนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายในปี 2050

เป้าหมายของรถยนต์ไฟฟ้า 50 % บนถนนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายในปี 2050 อาจไม่ค่อยมีความทะเยอทะยานเท่ากับประเทศในยุโรปที่มีเป้าหมายที่จะห้ามการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลใหม่ทั้งหมดในช่วงปี 2030 แต่ก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของการขับขี่ในประเทศ

เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าได้มากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ การขับรถไปที่ปั๊มน้ำมันนั้นยังไม่หมดไป แต่จุดชาร์จสาธารณะในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

Alix Capper-Murdoch ผู้มีอิทธิพลด้านยานยนต์และผู้ฝึกสอน กล่าวว่า ในดูไบ มีจุดชาร์จในห้างสรรพสินค้า ที่จอดรถ ที่จอดรถของธุรกิจทุกแห่ง ที่สนามบิน มีจุดชาร์จที่ Town Square Skate Park ด้วยซ้ำ ขณะที่ ดูไบ ชาร์จาห์ อัจมาน และอาบูดาบีเป็นประเทศที่มีความคิดก้าวหน้ามากกว่าที่อื่นๆ ทั่วโลก

โครงการ Global EV Market ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2023 กระทรวงพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน (MOEI) ได้ลงนามข้อตกลงกับสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และสาธารณูปโภค โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือการดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมในด้านอุปกรณ์ชาร์จ โดยติดตั้งทั่วทั้งรัฐบาลกลาง อาคารราชการ ถนน และป้ายรถบรรทุก ขณะที่แบรนด์ยานยนต์ยอดนิยมได้ลงนามในโครงการนี้แล้ว เช่น Audi, BMW, General Motors, Jaguar Land Rover และ Porsche

ภายในสิ้นปีนี้ กระทรวงพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งเป้าจะติดตั้งสถานีชาร์จ 914 แห่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกำลังดำเนินการสร้างเส้นทาง EV ของ กลุ่ม GCC กลุ่มประเทศ GCC (Gulf Cooperation Council) หรือที่รู้จักในอีกชื่อ Cooperation Council for the Arab States of the Gulf เป็นสหภาพที่ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศอาหรับในตะวันออกกลาง ซึ่งได้แก่ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ตั้งอยู่ติดกันในอ่าวเปอร์เซีย โดยจะมีสถานีชาร์จเร็วบริเวณชายแดนติดกับซาอุดีอาระเบียและโอมาน

ขณะที่ในดูไบ ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค DEWA ได้ติดตั้งสถานีชาร์จสาธารณะแล้ว 620 แห่ง และวางแผนที่จะเพิ่มเป็น 1,000 แห่งภายในปี 2025

BEEAH Group เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อช่วยเปิดตัวจุดชาร์จเพิ่มเติมทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และหน่วยงานด้านการขนส่งที่ยั่งยืนของบริษัทจะรับผิดชอบในการสร้าง จัดการ และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่จำเป็นเพื่อเร่งการนำยานพาหนะไฟฟ้ามาใช้ในวงกว้าง โดยจะทำการติดตั้งและบำรุงรักษาจุดชาร์จในพื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่จอดรถ และอาคารที่พักอาศัย และใช้การตรวจสอบแบบเรียลไทม์เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการซ่อมแซมและบำรุงรักษาได้ทันท่วงที 

ความร่วมมือที่มีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่สำหรับจุดชาร์จ คือ บริษัทร่วมทุนในการสร้างและดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วอาบูดาบีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความต้องการจุดชาร์จประมาณ 70,000 จุดภายในปี 2030

 EV มากมายในตลาด UAE แค่ไหน

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดปลั๊กอินมากกว่า 60 รุ่นวางจำหน่ายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ครอบคลุมแบรนด์ต่างๆ มากมาย รวมถึงรถยนต์หรูหราระดับไฮเอนด์ รถสปอร์ต รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถตู้ หนึ่งในนั้นคือ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งจำหน่าย รถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้า เชฟโรเลต โบลต์ และมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์อีก 5 รุ่นในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ศูนย์ซ่อมแซมและบำรุงรักษา EV 

เมื่อรถยนต์มีความซับซ้อนมากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้ายังต้องการทักษะเฉพาะทางที่มากกว่านั้น โครงการ Global EV Market รวมถึงแรงจูงใจในการลงทุนในศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่มีความสามารถเนื่องจากแบรนด์ยานยนต์รายใหญ่ทุกรายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดศูนย์บริการอยู่แล้ว

คาดว่าโรงงานเหล่านี้จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีขีดความสามารถในการทำงานกับรถยนต์ไฟฟ้า ศูนย์บริการ EV ผู้เชี่ยวชาญอิสระได้เปิดแล้วในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ EVS และ Royal Swiss Auto Services ต่างก็มีอู่ซ่อมรถสองแห่งในดูไบและอีกแห่งในอาบูดาบี 

ข้อมูลอ้างอิง 

theethicalist

Ministry of Energy and Infrastructure announces Global EV Market transformational project

National Electric Vehicles Policy

missautoknow