เมื่อ “เวนิส” อาจกลายเป็นมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย
เมื่อ “เวนิส” อาจกลายเป็นมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย โดยข้อเสนอขององค์การยูเนสโกเพื่อกระตุ้นให้เวนิสได้รับการดูแลคุ้มครองที่ดีขึ้น
หลายคนคงทราบดีว่า หนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับความนิยมสูง คือ นครแห่งสายน้ำ “เวนิส” (Venice) ประเทศอิตาลี เเต่ยูเนสโกได้แนะว่าให้ขึ้นทะเบียนเวนิสเข้าไปในบัญชีรายการ “มรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย” หรือ World Heritage in Danger โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเสนอระหว่างการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ในกรุงริยาดห์ ซาอุดีอาระเบีย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-25 กันยายนนี้
สิ่งนี้เป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเอาจริงเอาจังในการจัดการปัญหาต่างๆ ที่กำลังคุกคามแหล่งมรดกโลกแห่งนั้นๆ ซึ่งสำหรับเวนิสนั้นก็เพื่อจัดการกับ “ปัญหาที่มีมายาวนาน” กับจำนวนนักท่องเที่ยวมากเกินไปและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ยูเนสโก ขึ้นทะเบียนสถานที่ 1,157 แห่งที่ให้เป็นมรดกโลก (World Heritage) โดยพิจารณาจากคุณค่าที่โดดเด่นในระดับสากล ไม่ว่าจะในเชิงธรรมชาติหรือวัฒนธรรม
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ เวนิสอยู่ในภาวะแห้งแล้งอย่างหนักจนเป็นไปไม่ได้ที่เรือกอนโดลา เรือแท็กซี่น้ำ และรถพยาบาลจะผ่านคลองบางสายได้ ในเดือนพฤศจิกายน 2019 น้ำท่วมรุนแรง
การท่องเที่ยวมากเกินไปในเวนิสเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยูเนสโกได้กล่าวถึงความพยายามบางอย่างในการต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว เช่น การห้ามไม่ให้เรือขนาดใหญ่เข้าสู่ลุ่มน้ำซานมาร์โก คลองจิยูเดคา แต่ถึงอย่างนั้น รายงานระบุว่า ผลกระทบของความเสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงการพัฒนา ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการท่องเที่ยวจำนวนมาก คุกคามให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรของเวนิส
เอกสารร่างข้อมติของยูเนสโก ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าในระดับที่มีนัยสำคัญในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและซับซ้อน
2 ปีก่อน ยูเนสโกเคยเสนอให้ขึ้นทะเบียนเวนิสเป็นมรดกโลกที่เสี่ยงอันตราย แต่ข้อเสนอถูกปฏิเสธไปเพราะรัฐบาลอิตาลีได้ออกมาตรการฉุกเฉินฟื้นฟูเมือง เช่น การ แบนเรือขนาดใหญ่ และเรือสำราญในคลองสายหลัก โดยยูเนสโกพยายามผลักดันให้รัฐบาลอิตาลีแบนเรือประเภทอื่นๆ ด้วย แต่ไม่มีความคืบหน้า
ข้อมูล
Unesco recommends putting Venice on heritage danger list
Venice becomes the front line in the battle against overtourism