GUNKUL ปักหมุดผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน 1 พันเมกฯปี 66

15 มี.ค. 2566 | 04:23 น.

GUNKUL ปักหมุดผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน 1 พันเมกฯปี 66 เผยมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการทั้งโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลมอย่างต่อเนื่อง รับการขยายตัวของธุรกิจพลังงานในอนาคต

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจปี 2566 ว่า ตั้งเป้าจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนระดับ 1,000 เมกะวัตต์

โดยมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานทดแทน ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีความพร้อมทางด้านการเงิน และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่สามารถรองรับการเติบโตและการลงทุนได้มากกว่า 40,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี เพื่อรองรับการเข้าร่วมการยื่นขอเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ขนาด 5 กิกะวัตต์

“กลุ่มบริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรในทุกกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ ทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานและนวัตกรรมพลังงาน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านการบริการก่อสร้างครบวงจร เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจพลังงานในอนาคต" 

สำหรับธุรกิจพลังงานบริษัทฯ ได้ร่วมประมูลจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573  ซึ่งได้กำหนดการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3 ประเภท ได้แก่ ก๊าซชีวภาพ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System : BESS) 

โดยบริษัทฯ ผ่านคุณสมบัติและเทคนิคขั้นต่ำของการประมูลรวมกว่า 20 โครงการ ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่าจะมี portfolio เมกะวัตต์รวม เติบโตตามเป้า 1,000 เมกะวัตต์ ที่บริษัทฯ ได้ตั้งไว้ ซึ่งตามระเบียบคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 5 เมษายน 2566 โดยบริษัทฯ มีงบลงทุนที่เตรียมไว้กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าในการ Spin-Off  บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ในช่วงไตรมาส 4/2566

ซึ่งประเมินว่างานรับเหมาก่อสร้างจะมีเพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีนี้ เนื่องจากมีแผนจะเข้าไปรับงานภาคเอกชนมากขึ้น จากปัจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้กว่า 5,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีการประมูลงานใหม่กว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อมาสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มมากขึ้น

นายสมบูรณ์ บอกอีกว่า ภาพรวมธุรกิจปี 66 เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 3,010.52 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9,515.10 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ยังเป็นตัวขับเคลื่อน