นายชเล วุทธานันท์ ประธานกรรมการ บริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องนอน สิ่งทอ ผ้าม่าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ “PASAYA” (พาซาญ่า) เปิดเผยว่า แนวคิดในการเปลี่ยนโลกให้คนสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนของ PASAYA (พาซาญ่า) เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2538
พาซาญ่าได้ออกแบบและวางผังโรงงานสีเขียว (Green Factory) ให้มีระบบการผลิตและ การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีการใช้สารเคมีอันตรายที่สร้างผลกระทบต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสารเคมีอันตรายใดๆ ในแหล่งน้ำและผืนดิน
รวมถึงการรีไซเคิลระบบน้ำภายในโรงงานได้ 100% และนำกลับมาใช้ใหม่ในขบวนการผลิตได้ถึง 30% ทุกอาคาร ภายในโรงงานได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงคุณภาพในการผลิต ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดีของ พนักงาน อาทิ โรงทอ “Casamatta” ต้องควบคุม ความชื้นและมีการกำจัดฝุ่นฝ้ายในอากาศอย่างมีประสิทธิภาพการออกแบบระบบถ่ายเทอากาศตามหลัก Aero Dynamic
ภายในโรงย้อม (Kampang) ที่อาจมีอุณหภูมิสูงถึง 130 องศาฯในขณะย้อมให้เย็นสบายและ สวนป่าสีเขียวใจกลางโรงเย็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ผ่อนคลายให้พนักงาน โดยปีนี้ (2565) พาซาญ่าได้เริ่มติดตั้งโซล่าร์ เซลล์เพื่อใช้พลังงานสะอาดแทนไฟฟ้าภายใต้การสนับสนุนของ KBank รวมถึงเพิ่มการใช้วัตถุดิบ Recycle และ Upcycling เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions Factory
“ในปี 2564 พาซาญ่า เดินหน้าพันธกิจ The Mission towards Zero Emission and Net Zero 2050 โดยเริ่มทำโครงการ Zero Emission และขึ้นทะเบียน Carbon Footprint เป็นที่เรียบร้อย เรายังเปลี่ยนระบบเตาไอน้ำจากการเผา ถ่านหินเป็นระบบ Once Through หรือ “เปิดปุ๊บติดปั๊บ” ด้วยการใช้ก๊าซ LPG ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเท่าตัว ในการให้ความร้อนสำหรับงานฟอกย้อมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม (2565) ทำให้เราลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ได้ไม่น้อยกว่า 2,500 ตัน/ ปี หรือราว 25%
จากนั้นเราจะค่อยๆ ปรับลดลงอีกทุกปีควบคู่กับการขยายกำลัง การผลิตเพื่อไปให้ถึง Net Zero ในปี 2050 เรายังเริ่มรณรงค์โครงการ Mission for the World ใช้ที่ดินโรงงาน ราว 100 ไร่ เพื่อมาเรียนรู้ในการปลูกป่าชดเชยคำร์บอนไดออกไซด์ แล้วจะทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไปยังที่ดินใน ชนบทห่างไกล ซึ่ง 10,000 ตันเท่ากับปลูกป่าบนที่ดินเพียง 3,300ไร่”
พาซาญ่ายังกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญที่โลกกำลังเผชิญหน้าผ่านการจัด นิทรรศการผ้าทอขนาดใหญ่ในคอนเซ็ปต์ “The Sixth Extinction” หรือ “การสูญพันธ์ครั้งที่ 6” ที่ได้แรงบันดาล ใจจากหนังสือชื่อเดียวกันของ Elizabeth Kolbert อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ทุ่มเทเวลาให้กับการค้นคว้าเกี่ยว กับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
ด้วยการนำภาพสัตว์หลายชนิดที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์รวมถึงภัยพิบัติ ต่างๆ มาถักทอลงบนผืนผ้าด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผสานความเชี่ยวชาญด้านการทอผ้าของพาซาญ่า เช่น วัว ไฮแลนด์, หมาจิ้งจอกอาร์กติก, เสือโคร่งเบงกอล, กุยหรือไซกา, กบต้นไม้ตาแดง, วาฬสีน้ำเงิน, ปูก้ามดาบ, ลิงชิมแปนซี, แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย, อินทรีหัวขาว, ช้าง เป็นต้น โดยไฮไลท์ของนิทรรศการในครั้งนี้คือ “Mural Art” การจัดแสดงภาพทอขนาดใหญ่สูงกว่า 6 เมตร ด้านหน้าอาคาร Zig Zag
นอกจากนี้ พาซาญ่ายังได้เปิดตัวทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ (Young Gen) หัวใจสีเขียวที่ร่วมกันขับเคลื่อน ธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน จัดงาน “รวมพลคนกู้โลก ก้าวสู่ Net Zero” (Mission for The World) เพื่อประกาศจุดยืนสู่การเป็น Net Zero Emission Factory และเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการ “The Sixth Extinction” พร้อมจัดงาน PASAYA Grand Sale ให้คุณช้อปสินค้าคอลเล็กชั่นพิเศษและสินค้าลดราคาด้วย
สำหรับแบรนด์ PASAYA ถือเป็นแบรนด์เครื่องนอนไทยที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากทำตลาดในไทยยังส่งออกไปยังจีน ญี่ปุ่น ยุโรป ออสเตรเลีย ฯลฯ มียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี